กลยุทธ์การตลาด มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ

ก้าวสู่ยุคทองของนักเขียน (Writer) สร้างธุรกิจส่วนตัว บนโลกออนไลน์

นาทีที่ 00:00 – 00:26          สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ warrior นักรบทำธุรกิจ วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับเรื่องการทำการตลาดของมนุษย์เงินเดือน ก่อนอื่นเนี่ยผมจะให้ดูภาพใหญ่ก่อน เป็น Flowchart ซึ่ง Flowchart ตัวนี้ ผมใช้เวลาทำติดต่อนานประมาณสิบชั่วโมง ตั้งแต่หนึ่งทุ่มยันตีสี่เลย แล้วก็ต่อในวันรุ่งขึ้น ในการอัดวิดีโออีก คาดว่าจะประมาณสองชั่วโมง รวมกันเป็นน่าจะสิบสองชั่วโมงเลย

นาทีที่ 00:27 – 01:22 สำหรับวิดีโอนี้ ในการเตรียมข้อมูล เพราะมันจำเป็นมาก ผมจะถ่ายทอดในมุมมองของการทำการตลาด เพื่อที่คุณจะได้เห็นภาพรวมของการทำธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจส่วนตัว โดยปัจจัยที่คุณจะต้องเจอ คนเป็นมนุษย์เงินเดือนเนี่ยจะมีเวลาน้อย มีเงินน้อย แต่ขออย่าให้มีความรู้น้อยตาม โดยถ้าเราฝึกที่จะมอง การทำธุรกิจโดยเห็นแบบภาพรวมก่อนเนี่ย เราจะทำให้เราแก้ไขได้ถูกจุด รู้ว่าเวลาที่สินค้าเราขายไม่ได้ เราจะต้องพัฒนาตรงจุดไหน แล้วเป็นจุดไหนที่เราอ่อน จุดไหนที่เราแข็ง ฉะนั้นเราจะได้มองเห็น ถึงทิศทางการทำงานของมัน เริ่มต้นเนี่ย เรามาดูเรื่องของการตลาด ในหัวข้อว่า “การให้ข้อมูล” เนี่ย  มีประโยชน์ยังไง ช่วยคนตัดสินใจง่าย และสร้าง Brand ได้ยังไง เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดกัน

นาทีที่ 01:23 – 01:50 เริ่มต้น ผมอยากจะให้คนที่ฟังอยู่ นึกถึงการตลาดแบบเดิมก่อนที่เราเคยได้ยิน ก็คือการตลาดแบบ 4P นึกออกไหมครับ  P มีอะไรบ้างครับ? เอาเป็นเท้าความก่อน มีตรงนี้แหละครับ Product, Price, Place, Promotion แปลถูก  Product คือ สินค้า, Price คือ ราคา, Place คือ ทำเลสถานที่, Promotion ก็คือ ลด แลก แจก แถม กิจกรรมอะไรก็แล้วแต่

นาทีที่ 01:51 – 02:31 แต่เนื่องจาก internet  ทำให้พฤติกรรมของคนซื้อเปลี่ยนไป วิธีการซื้อก็เปลี่ยนไป  การตัดสินใจซื้อก็เปลี่ยนไป ในยุคของการทำตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม Niche market   มีการนำเสนอกลยุทธ์ที่เรียกว่า 4C    4C เนี่ยจากหนังสือชื่อ The New Marketing Paradigm โดย ดอนอีซูลทัซ (Don E Schultz) คนนี้ แล้วก็นักเขียนอีกสองสามท่าน  หนังสือเล่มนี้ ขายที่ Amazon ด้วย นี่  แล้วก็นักเขียนอีก นักเขียนอีกสองสามท่านเล่มนี้ New Marketing Paradigm

นาทีที่ 02:32 – 03:40 คราวนี้ New Marketing หนังสือเล่มนี้พูดเกี่ยวกับอะไรบ้าง เรื่องแรก เขามีการเปลี่ยน แนวคิดในการทำการตลาดแบบ 4P เนี่ย ถ้าคุณจะมาเจาะแบบ Niche market มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยมี internet เนี่ยเป็นตัวแปรสำคัญ คุณต้องใช้ 4C ครับ ลักษณะยังไงครับ เริ่มแรก   Product เนี่ย แทนที่เราจะ Focus เกี่ยวกับเรื่องสินค้าเป็นตัวตั้งตน  เราจะเปลี่ยนไปที่ Focus ของ Customer  คือลูกค้าของเรา ลูกค้าของเรามีความพึงพอใจมากแค่ไหน เขารู้สึกอย่างไร และเขาได้รับข้อมูลจากแหล่งไหนบ้าง ที่ช่วยทำให้เขาตัดสินใจที่จะซื้อ หรือว่าไม่ซื้อสินค้าของเรา  หรือว่าช่างใจ เก็บเป็นตัวเลือก อะไรก็แล้วแต่  อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า เรื่องของ Cost ครับ คือความคุ้มค่า ความถึงพอใจ   Price เป็นส่วนหนึ่งของ Cost   คราวนี้เวลาคนไปซื้อของ มันอาจจะไม่ได้ดูแค่ราคาอย่างเดียว จะดูถึงความคุ้มค่า ความพอใจ  ถ้าของมีราคาสูงจริงแต่เรารู้สึกว่าคุ้มค่า  เขาก็จะซื้อได้

นาทีที่ 03:41 – 04:42 ถัดไปก็คือเรื่องของ Place ครับตัวนี้ Place คือ เมื่อก่อนน่ะครับ Place คือทำเล แต่คราวนี้คือจะพูดถึงเรื่องของ Convenience ความสะดวกสบาย เวลาที่ลูกค้าจะซื้อของเนี่ย บางทีเนี่ยเขาไม่จำเป็นต้องขับรถไปซื้ออีกแล้ว หรือไม่ต้องเดินไปซื้อ เข้าห้าง  เราอาจจะสั่งซื้อผ่านออนไลน์ด้วย มีความสะดวกสบายมากขึ้น  ฉะนั้นการทำการตลาดของเรา ถ้าคำนึงถึงความสะดวกสบายเนี่ย ต้องมองดูจุดนี้ด้วย อันสุดท้าย Promotion เนี่ย อ่า..  เขามองว่ามันแคบเกินไปละ Promotion เนี่ยเป็นการจากส่วนลดแลกแจกแถม จากผู้ชาย แต่เรื่อง Communication เนี่ย เป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้น Communication เนี่ยเป็นการโต้ตอบกับลูกค้าในสองทางแล้ว  มีการสื่อสารออกไป  ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, Viral marketing   การทำเนื้อหา Content, การจัดกิจกรรม Event หรือว่าการโต้ตอบ สิ่งที่สื่อออกไปเนี่ย คือ Communication หมด การสร้าง Facebook fanpage ก็เป็นสร้าง Communication ที่ดีมากอย่างหนึ่ง

นาทีที่ 04:43 – 05:30 ในองค์ความรู้ที่ผมจะถ่ายถอดนี้ จะเหมาะกับนักธุรกิจ นักเขียน วิทยากร นักการตลาด เข้าของกิจการ และคนที่สนใจจะสร้าง Brand และขายสินค้าออนไลน์ คราวนี้กลับมาดูว่าถ้าเราจะทำธุรกิจออนไลน์ เราจะต้องมีปัจจัยอะไรที่เราต้องรู้บ้าง เดี๋ยวผมขอ Zoom ไปให้เลยชัดๆ อ่านี่ การทำธุรกิจออนไลน์นี้ ผมจะให้โฟกัสอย่างงี้ 3 ข้อใหญ่ๆ แล้วเราจะใช้ตัวนี้เป็นภาพใหญ่ในการสอนเกือบทั้งหมด อันแรกคือ คุณต้องมีสินค้าก่อน ถัดมาคุณจะต้องมีหน้าร้านออนไลน์ อย่างเช่น เว็บไซต์ หรือ Facebook fan ก็ได้ ใช้เป็นหน้าร้านออนไลน์ แล้วคุณจะทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าจองคุณได้ คุณต้องพึ่งการตลาดออนไลน์ สามส่วนอย่างงี้

นาทีที่ 05:31 – 06:58 โดย สินค้า  สินค้าของเราเนี่ย เวลาที่จะไปปรากฏบนหน้าร้านออนไลน์เนี่ย เราจะต้องทำให้มันดูดี  เราจะเรียกมันว่าการ Pack สินค้า เตรียมขาย หรือว่าเตรียมเนื้อหา Content ที่ปรากฏอยู่ในหน้าร้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือ Facebook fanpage  ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง วิดีโอ โดยมีส่วนของของฟรี แล้วก็ไม่ฟรี ก็แล้วแต่เราจะแจก จะจ่าย จะขายหรือว่าจะสื่อสารเข้าไปผม  โดยเมื่อเราที่ทำการ Pack สินค้าให้ดูดี โดย Pack สินค้าให้ดูดี เตรียมเนื้อหาให้ดูดีเนี่ย ต้องใช้ทักษะของเรื่องการออกแบบเข้าช่วย สำหรับบริษัทขนาดใหญ่เนี่ย ที่มีทีมงานออกแบบเรียบร้อยเนี่ย เขาจะออกแบบ package สินค้า ออกแบบดีไซน์หน้าปก การถ่ายรูป เขียนคำพูด มีวิดีโออะไรต่างๆ ที่ค่อนข้างมีคุณภาพสูง ทำให้ Feedback กลับมาดี แล้วก็ทำให้สินค้าเนี่ยดูมีราคาทันที แล้วก็คุ้มค่าที่จะซื้อ แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนเนี่ย คนที่มีเวลาน้อย  เงินทุนน้อย เดี๋ยวผมจะสอดแทรกวิธีคิดแล้วก็วิธีทำอีกที ว่าจะทำยังไงให้ Pack สินค้าของเราดูดี ที่ปรากฏอยู่บนหน้าร้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ Facebook fanpage  และจะหาแหล่งข้อมูล เอา Source ดีดียังไง เพื่อที่จะทำให้สินค้าดูดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งผมจะพูดในหัวข้ออื่นๆถัดไป  นี่คือให้เห็นภาพรวมก่อน

นาทีที่ 06:59 – 07:57 พอเราทำการ Pack สินค้า เตรียมขาย เก็บอยู่ในหน้าร้านออนไลน์แล้ว มีเนื้อหาอะไรอยู่เว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว สิ่งถัดไปที่เราจะต้องทำ ก็คือการนำไป promote  โดยช่องทางในการ promote เนี่ยผมจะขอโฟกัสหลักๆ แค่สองตัว เพื่อให้เห็นชัด ถ้าเรามีเว็บไซต์ เราจะโปรโมทผ่าน Google  โดย Google เนี่ย เราจะใช้ สองตัวนี้เป็นหลัก คือ SEO และ Adwords    ผมยกตัวอย่างง่ายๆ  นี่คือเว็บไซต์ของ Warrior   เรามีเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว เราทำการเอาข้อมูลมาใส่ในเว็บไซต์ของเราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นหน้าร้านออนไลน์ นี่คือข้อมูล และเราทำการเอาสินค้ามาใส่ในเว็บไซต์ของเราแล้ว อย่างเช่น สินค้าของผมเนี่ยจะเป็น Course เรียน อย่างงี้ เห็นไหมครับ  มีระบบ Shopping card อะไรเรียบร้อยแล้ว เห็นไหมครับ เอามาใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นไหมครับ  มีการดีไซน์แพ็คเกจ การให้ข้อมูล และรายละเอียดต่างๆของสินค้าเรียบร้อยแล้ว

นาทีที่ 07:58 – 08:40 ขั้นต่อไปเนี่ย เราจะนำข้อมูลเหล่าเนี้ยไปปรากฏให้เห็นบนเว็บไซต์  คนอื่น ให้คนอื่นเห็นผ่าน Google   โดยเราจะไปให้ปรากฏบนหน้า Search Engine ของเขา  ซึ่งวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ไปปรากฏบนหน้า Search Engine ของเขาเนี่ย เราจะมีตำแหน่งสองส่วน ที่เราจะต้องสนใจ นั่นก็คือ เรื่องแรก ก็คือการลงโฆษณา อย่างงี้ เราจะเรียกว่า Google Adwords  จะมีตัว Ads ตรงนี้อยู่ ในกรณีที่เราเว็บไซต์ใหม่ๆเนี่ย เราจะไม่มีเว็บไซต์ขึ้นอันดับดีใน Google  ถ้าเราอยากจะเร่งให้คนเนี่ย เห็นเว็บไซต์เร็วขึ้น เราก็ใช้ Google Adwords ช่วย

นาทีที่ 08:41 – 09:35 โดยการเรียนรู้เรื่องของ Google Adwords  เราต้องเข้าเว็บไซต์ตรงนี้ แล้วก็สามารถที่จะลงชื่อเข้าใช้ แล้วก็ทำโฆษณาได้ ซึ่งกูแอ้ด จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ใหญ่มาก ซึ่งสามารถเปิด Course ได้เลย แต่ผมขอเกริ่นเท่านี้ก่อน โดยเราจะทำการโฆษณาโดยเสียตังค์เมื่อคนคลิก  อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่จะทำให้เว็บไซต์ ติดอันดับตรงส่วนนี้ ที่เราจะเรียกว่าการทำ SEO  ซึ่งการทำ SEO เนี่ยมันจะมี Course  ของผมเรียบร้อยแล้ว คือ “เพิ่มลูกค้าออนไลน์ด้วย SEO” แล้วก็ Course ตรงนี้ รายละเอียดภายในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว  คราวนี้กลับมาที่ Facebook กันบ้าง อ่า อันต่อไป ก็คือการทำการตลาดออนไลน์ โดยใช้ Facebook  ช่วย

นาทีที่ 09:36 – 10:54 ขั้นแรก เราจะสร้าง Facebook fanpage ขึ้นมาก่อน นี่คือ Facebook fanpage  เราสามารถสร้างได้ง่ายๆ ไปที่ Account ของเราแล้วก็เลือก สร้างเพจ ตัวนี้ เราก็จะมีหน้า สร้างแฟนเพจ เรียบร้อยแล้ว พอเราสร้างแฟนเพจ ตั้งชื่อแล้ว   เราก็จะมีหน้าเฟสบุคตัวนี้ที่ซึ่งเราไว้สำหรับ ในการโพสเนื้อหา ข้อมูล ที่มีประโยชน์ อย่างเช่น ผมเขียนบทความภายในเว็บไซต์ แล้วก็นำมาโพสใน Facebook fanpage  ก็บทความล่าสุด ที่มีคนตอบรับดีเลย  มีคนเข้าถึง ประมาณหมื่นกว่าคน แล้วก็มีคนแชร์ประมาณร้อยกว่าครั้ง   ถูกใจประมาณสองร้อยกว่าครั้ง แบบนี้ โดยที่ยังไม่ได้ทำโฆษณาเลย  เป็นการบอกต่อๆกันผ่าน Facebook  แล้วก็เป็นการเข้ามามีส่วนร่วมจากสมาชิกในแฟนเพจของผมนั่นเอง ซึ่งมีประมาณหมื่นคนเศษๆ ในกรณีที่เราอยากจะเพิ่มการเข้าถึง ให้คนรู้จัก อ่า โพสของเรา หรือรู้จักเพจของเรามากขึ้นเนี่ยเราต้องเรียนรู้เรื่องการทำโฆษณา Facebook Ads เพิ่ม ซึ่ง Facebook Ads เนี่ย ก็จะเป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งสามารถเปิด Course ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่

นาทีที่ 10:55 – 11:24 คราวนี้กลับมาดูภาพรวมอีกครั้ง เริ่มแรก เราจะต้องมีสินค้าของเราก่อน เสร็จแล้ว เราทำการ Pack สินค้า แล้วเตรียมเนื้อหาให้เรียบร้อย ให้อยู่บนหน้าร้านออนไลน์ของเรา ซึ่งหน้าร้านออนไลน์ของเราเนี่ยจะต้องทำให้ดูดี แล้วมีความเป็นมืออาชีพสูง สำหรับระบบเว็บไซต์ที่ทำหน้าร้านออนไลน์เนี่ย สามารถติดต่อทาง Warrior ได้ มีระบบ Newsmag ที่ช่วยในการทำ SEO ได้อย่างดีอยู่

นาทีที่ 11:25 – 12:16 ถัดไป พอเรามีสินค้า มีเว็บไซต์แล้วเราก็ต้องทำการตลาด ผ่าน Google (SEO, Adwords) หรือว่า Facebook fanpage,  Ads ได้ เพื่อที่จะทำการตลาดออนไลน์ เรียกลูกค้าเข้ามา คราวนี้ถัดไป  ซึ่งที่เราต้องเรียนรู้ต่อก็คือ การทำเนื้อหาเว็บไซต์ ให้ดีเพื่อที่เราจะได้ไต่อันดับเว็บไซต์ของ Google   ด้วยเทคนิคการทำ SEO  คราวนี้เรามาดู ถัดไปว่าการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ช่วยคนตัดสินใจง่ายและสร้างแบรนด์ได้อย่างไร เวลาที่เรามีข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์ เราจะต้อง ผมแบ่งง่ายๆแบบนี้ เป็นข้อมูลที่เอาไว้ขายกับให้ฟรี  สองส่วนหลักๆเลย ผมแบ่งตาม ของขายกับของฟรี ว่าอย่างงั้น

นาทีที่ 12:17 – 13:24 คราวนี้เรากลับมาที่มุมมองครับ  ในส่วนของข้อมูลที่ขายเนี่ย จะอยู่ทางซ้าย แล้วส่วนข้อมูลที่ฟรีผมจะไว้ตรงทางขวาตรงนี้ เป็น section  ทางขวา โดยเบื้องต้นเนี่ยบางทีเรายังคิดไม่ออกว่ามีของจะให้ฟรียังไง?  ให้เราเริ่มสตาร์ทที่ของที่เราจะขายก่อนได้  อย่างนี้ คือของที่เราจะขาย นี่คือตัวอย่างของที่ผมจะขาย เนื่องจากของผมเป็นเว็บขายความรู้ ผมก็จะต้องการออก Course อะไรต่างๆมา อย่างเช่น Course ความรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจออนไลน์อย่างงี้ Course ความรู้เกี่ยวกับ หน้าร้านออนไลน์ นี่เห็นไหมครับ ระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป Newsmag ที่เอื้อประโยชน์กับ SEO  แล้วก็การตลาดออนไลน์ผ่าน Google  มีแบบไม่เสียตังค์ คือใช้ SEO แล้วก็แบบเสียตังค์คือใช้ Google Adwords  แล้วก็การทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Facebook ที่แบบ มีแบบเสียตังค์และไม่เสียตังค์นั่นเอง

นาทีที่ 13:25 – 14:33 คราวนี้ พอเรารู้แล้ว่าสินค้าที่เราจะขายคืออะไร  เราจะคิดของที่จะฟรีง่ายขึ้น  โดยของที่จะฟรี เราจะเอาหัวข้อต่างๆทางด้านขวานี้ผม มาจับคู่กัน  ผมยกตัวอย่างอย่างงี้ ผมสมมุติว่าผมมีสินค้าที่จะขายคือ “สอนวิธีคิดและคิดวิธีทำของมนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจออนไลน์”  ผมจะคิดเนื้อหาของฟรีได้ยังไง  ผมก็เอาความรู้ทั่วไปมาจากเรื่องแรก เอาวิธีใช้งานหรือว่า Tools อุปกรณ์ต่างๆมาจัด ว่ามันมีความรู้ทั่วไปยังไง เกี่ยวกับวิธีคิดและวิธีทำงานของมนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจออนไลน์ มีเครื่องมือ มี Tools อะไรบ้าง ที่จำเป็นต้องใช้  มีการผลิตหรือส่วนประกอบอะไรบ้าง อย่างเงี้ย  ประโยชน์ ผลลัพธ์ที่จะต้องใช้ หรือว่าที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจ หรือว่าการทดลองอะไรใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ การผสมผสานใหม่ๆ หรือข่าวอัพเดทอะไรใหม่ๆเนี่ยที่เกิดขึ้น สำหรับการทำธุรกิจเงินเดือน โดยเอาทั้งหัวข้อเนี่ยมาจับกับสินค้าที่จะขาย เราก็จะได้เนื้อหาในการสร้าง Contents ที่ฟรี เช่นเดียวกันครับ

นาทีที่ 14:34 – 15:15 สมมุติว่า ถ้าผมจะขายสินค้า Product ที่มันเป็นระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป อย่างงี้ ตัวนี้ หน้าร้านที่เป็น Product เว็บไซต์สำเร็จรูปอย่างงี้ ผมก็จะให้ข้อมูลที่เป็นความรู้ฟรีอย่างเช่น ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป วิธีใช้งาน Tools ต่างๆ ส่วนประกอบ ส่วนผสม อะไรต่างๆ ประโยชน์ของมัน ที่เราจะใช้งานระบบเว็บไซต์สำเร็จรูป มีอะไรใหม่ๆ หรือว่าข่าวอัพเดตใหม่ๆ เห็นไหมครับว่า แค่ Product ชิ้นเดียวเนี่ยผมจะสามารถสร้างเนื้อหาที่ฟรีเนี่ย แตกย่อยได้ประมาณเป็นห้าหกหัวข้อเลย และแต่ละหัวข้อสามารถให้ข้อมูลได้เรื่อยๆ เยอะเท่าตราบเท่าที่เราจะมีเลย

นาทีที่ 15:16 – 15:39 ฉะนั้น ถ้าเราสามารถที่จะแตกหัวข้อย่อย ในการสร้าง Content ฟรีได้ยิ่งเยอะ ก็จะยิ่งดี เพราะว่าของ Content ที่ฟรี เป็นการให้ข้อมูลเพื่อให้คนที่เข้ามาดูเว็บไซต์เรา ประกอบการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ว่าของเราดีจริง มีประโยชน์จริง และช่วยแก้ไขปัญหาของเขาได้จริง เขาจะซื้อของของเราได้ง่ายขึ้น แล้วก็กลับมาซื้อซ้ำ แล้วก็แนะนำคนอื่นได้

นาทีที่ 15:40 – 16:27 นี่คือประโยชน์ของของฟรีที่เราแจกในเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นเอาไว้ใช้สร้างฐานแฟนเพจใน Facebook   สร้างคนเข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Google  หรือว่าสร้างชื่อเสียง Personal brand ได้   ตัวอย่าง pack สินค้า เราเน้นจากที่เราจะมีขาย แล้วเรา ผมก็ Pack อะไรต่างๆให้เรียบร้อย ในกรณีของผมเนี่ยจะ pack  เป็น e-book, audio, วิดีโอ แล้วก็ Course ออนไลน์ แล้วก็จัดสัมมนาอะไรต่างๆ เสร็จแล้วเราก็เอาไปขาย ที่หน้าร้านออนไลน์ โดยที่เราจะสามารถขายในเว็บไซต์ของตัวเองหรือฝากขายที่หนนาร้านออนไลน์ของคนอื่นก็ได้ และเราก็นำข้อมูลของเราในเว็บไซต์ของเราเนี่ย มาทำการตลาดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดผ่าน Google หรือ Facebook แฟนเพจนั่นเอง

นาทีที่ 16:28 – 17:10 นี่คือภาพรวมทั้งหมด ในการทำธุรกิจออนไลน์ เราจะเห็น ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวอย่าง กลยุทธ์ในการทำการตลาดโดยการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ซื้อง่าย แล้วก็กลับมาแนะนำ บอกต่อ  สำหรับรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนของสินค้า หน้าร้าน หรือการตลาดอย่างงี้ เดี๋ยวจะพูดถึงโอกาสในวิดีโอถัดไป สำหรับวิดีโอเรื่อง “มนุษย์เงินเดือนทำการตลาด”  โดยใช้เนื้อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย สร้าง Brand  จบเพียงเท่านี้ก่อนครับ  สวัสดีครับ.