9 รูปแบบการสร้าง SEO Team รูปแบบไหนที่เหมาะสมกับบริษัทของคุณ

รูปแบบการสร้างทีม SEO

การสร้าง SEO Team ทำได้หลายวิธี เช่น ทีมภายในขนาดเล็ก, ทีมภายในขนาดใหญ่, ทีมเอเจนซี่ขนาดเล็ก, ทีมเอเจนซี่ขนาดใหญ่, ทีมข้ามประเทศ, ทีมแบบ pod, ทีมแบบ Flat, ทีมแบบ Matrix และทีมแบบ Freelance 

ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ SEO หรือ search engine optimization ให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาอันดับแรก ๆ บนเครื่องมือการค้นหานั้น เป็นงานที่ต้องอาศัยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีขอบเขตงานที่หลากหลาย 

ดังนั้นทุกบริษัทที่มีเว็บไซต์จึงต้องมีผู้ที่ทำหน้าทีนี้ เป็นทีม SEO ที่แต่ละธุรกิจก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน 

หากคุณกำลังต้องการสร้างทีม SEO ของคุณ ทีมนักรบเรามี 9 รูปแบบของทีม SEO เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้นำไปปรับใช้ ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยากสร้างทีมออกมาในรูปแบบใด ไม่มีรูปแบบที่ถูกต้องเพียงวิธีเดียว สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้คือคุณต้องจัดรูปแบบทีม SEO ของคุณเพื่อจัดการกับความต้องการของงานให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นมาดูกันว่าทั้ง 9 รูปแบบมีอะไรบ้าง และเราจะสามารถเลือกให้เหมาะกับบริษัทของเราอย่างไร

Small in-house SEO team : ทีม SEO ภายในขนาดเล็ก

Small in-house SEO team  ทีม SEO ภายในขนาดเล็ก

รูปแบบแรกของทีม SEO คือ ทีม SEO ที่เป็นทีมขนาดเล็กภายในบริษัท มีองค์ประกอบของทีมประมาณ 1 – 4 คน ประกอบด้วย 

  1. ผู้จัดการ SEO ที่มีทักษะ SEO ที่หลากหลาย และ
  2. ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 3 คน คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค SEO ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา และผู้เชี่ยวชาญด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โครงสร้างนี้ครอบคลุมขอบเขตการทำงานพื้นฐานของ SEO ซึ่งแต่ละบริษัทสามารถปรับประยุกต์ได้ตามความต้องการของธุรกิจหรือการแข่งขันได้

Large in-house team : ทีม SEO ภายในขนาดใหญ่

รูปแบบต่อมาของทีม SEO คือ ทีม SEO ที่เป็นทีมขนาดใหญ่ ซึ่งอาจประกอบด้วยหลายทีมย่อยเฉพาะด้านแยกออกไปอีก และแต่ละทีมย่อยก็จะมีผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมย่อย และขึ้นตรงกับหัวหน้าทีมใหญ่ที่เป็นผู้ดูแลงานทั้งหมดของ SEO โดยโครงสร้างของทีม SEO รูปแบบนี้ไม่มีลักษณะของโครงสร้างที่ตายตัวอยู่ที่การออกแบบของบริษัทให้มีความเหมาะสมกับขอบเขตงานและบริบทของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

Small agency team : ทีม SEO เอเจนซี่ขนาดเล็ก

รูปแบบที่สาม คือ การสร้างทีม SEO โดยการจ้าง Agency ที่มีทีมขนาดเล็กแต่ครอบคลุมถึงความต้องการด้าน SEO ของบริษัทคุณ มาทำงานด้าน SEO ให้นั่นเอง 

ซึ่งอาจมี 1 คนในบริษัทที่เป็นตำแหน่งดูแลด้าน SEO โดยเฉพาะหรือเป็นตำแหน่งอื่นแต่ดูแลเรื่อง SEO ร่วมด้วย เพื่อคอยประสานงานระหว่างบริษัทกับ Agency ให้การทำ SEO บรรลุผลสำเร็จได้ ซึ่งข้อดีของทีม SEO รูปแบบนี้ คือ การได้ผู้ที่สามารถทำแต่ละด้านได้มาทำงานให้โดยที่เราไม่ต้องหาเอง 

  • ข้อดีคือ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานด้าน SEO ลงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งหมดไว้ในบริษัท 
  • ส่วนข้อเสีย คือ บริษัทของคุณจะไม่สามารถพึ่งตนเองในระยะยาวได้ นอกจากว่าคุณมีการพัฒนาทักษะด้าน SEO ของพนักงานในบริษัทควบคู่กันไป

Larger agency team : ทีม SEO เอเจนซี่ขนาดใหญ่

รูปแบบที่สี่ เป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกับแบบที่สาม แต่มีความแตกต่างกันที่ขนาดของ Agency ที่มีทีมขนาดที่ใหญ่ขึ้น สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการด้าน SEO ของบริษัทคุณได้ โดยแต่ละด้านจะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่มีโครงสร้างเป็นทีมแยกย่อยออกไป เช่น เดิมคือบริษัทของคุณอาจต้องมีคนหรือทีมหนึ่งที่ดูแลด้าน SEO ด้วยเช่นกัน เพื่อคอยประสานงานระหว่างบริษัทกับ Agency ดังนั้นทีม SEO รูปแบบนี้จึงจะเหมาะกับบริษัทที่ต้องการผลลัพธ์ของการทำ SEO และมีงบประมาณในการจ้าง Agency ขนาดใหญ่นี้อีกด้วย 

International SEO team : ทีม SEO กระจายในหลายประเทศ

รูปแบบที่ 5 เป็นรูปแบบการมีทีมงาน SEO อยู่หลากหลายประเทศ สำหรับธุรกิจข้ามชาติหรือมีธุรกิจตั้งอยู่มากกว่า 1 ประเทศขึ้นไป จึงต้องมีการจัดโครงสร้างของทีม SEO ที่ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก ๆ คือ 

  1. ทีม SEO ส่วนกลางที่ทำหน้าที่ดูแลภาพรวม SEO ของบริษัท 
  2. ทีม SEO ที่อยู่ในแต่ละประเทศ โดยมี SEO Country lead ทำหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานระหว่างแนวทางปฏิบัติทางการตลาด เทคโนโลยี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ โดยจะเน้นไปที่แคมเปญเฉพาะและความต้องการของแต่ละประเทศเนื่องจากแต่ละประเทศความเฉพาะของตนเอง การมีคนที่เข้าใจในแต่ละประเทศอย่างดีจะช่วยให้ทีมส่วนกลางสามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น

ตัวอย่างโครงสร้างสำหรับทีม SEO อีคอมเมิร์ซที่ทำงานในหลายประเทศ เพื่อการเพิ่มโอกาสในการขาย SEO เฉพาะประเทศ ซึ่งการหาความเฉพาะของแต่ละประเทศเริ่มจากการวิจัยคำหลักช่วยให้คุณค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องและทำความเข้าใจว่าผู้คนค้นหาสิ่งที่คุณขายอย่างไร ชอบหัวข้อเนื้อหาแบบไหน หรือมีใครบ้างที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่ควรขอรับ Backlink เป็นต้น 

Agency pod structure : ทีม SEO ที่มีโครงสร้างแบบพ็อดเอเจนซี่

รูปแบบที่หก คือ โครงสร้างทีม SEO ที่เป็นการจ้าง Agency ให้มาทำงาน SEO ให้กับบริษัท ที่มีความแตกต่างจากการจ้าง Agency ทั่วไป คือ เป็นการจ้าง Agency ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยจ้างเป็นราย Project ซึ่งหนึ่ง Project อาจประกอบด้วยผู้คนที่มาจากหลากหลายความเชี่ยวชาญแต่ทำงานประกอบกัน เช่น โครงการหนึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการที่บริษัทต้องการ 

Flat team structure : ทีม SEO ที่มีโครงสร้างทีมแบบแนวนอน

รูปแบบที่เจ็ด คือ ทีม SEO ที่มีโครงสร้างทีมแบบแนวนอน หรือโครงสร้างที่มีผู้บริหารระดับกลางระหว่างพนักงานและผู้บริหารมีน้อยหรือไม่มีเลย พนักงานทุกคนได้รับความเป็นอิสระและความรับผิดชอบในระดับสูง ทีม SEO รูปแบบนี้โดดเด่นด้วยการเน้นที่ความเป็นอิสระของพนักงานและการสื่อสารโดยตรงโดยไม่มีลำดับชั้น ทุกคนในทีม SEO มุ่งเน้นไปที่งาน SEO บางอย่างและบรรลุเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตามการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียมอาจนำไปสู่ความสับสนหรือขาดความรับผิดชอบหากไม่ได้รับการจัดการที่ดี และจะเหมาะสำหรับบางองค์กรที่มีสภาพแวดล้อมองค์กรที่เหมาะสมเท่านั้น

Matrix SEO Team : ทีม SEO ที่แต่ละคนอยู่ในทีมมากกว่า 1 ทีม

รูปแบบที่แปด คือ ทีม SEO ที่แต่ละคนในทีม SEO อยู่ในทีม SEO หลักและอยู่ในทีมของโปรเจคร่วมด้วย เพื่อทำหน้าที่ด้าน SEO ให้กับทีมหลักและรายโปรเจค โดยรูปแบบทีมแบบนี้ให้ความยืดหยุ่นและการทำงานร่วมกันมากกว่าแต่อาจซับซ้อนในการจัดการ พนักงานจะมีความสัมพันธ์ในการรายงานแบบคู่ทั้งผู้จัดการทีม SEO และผู้จัดการโครงการด้วย ซึ่งแนวทางแบบ pod นี้ออกแบบมาสำหรับบริษัทที่มีหลายโครงการดำเนินไปพร้อมกัน มีทรัพยากรบุคคลที่จำกัด และต้องการส่งเสริมการทำงานร่วมกันในบริษัท

Freelance SEO Team : ทีม SEO โดยการจ้างฟรีแลนซ์  

รูปแบบที่เก้า คือ การจ้างฟรีแลนซ์หรือคนที่รับทำ SEO อิสระ มารวมตัวกันสำหรับแต่ละโปรเจค หรือมาทำงานให้กับบริษัทแต่ละตำแหน่งโดยเฉพาะ บริษัทสามารถรวบรวมทีมฟรีแลนซ์ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งหรือโปรเจ็กต์นั้นมาทำงาน 

ซึ่งเมื่อโปรเจ็กต์เสร็จสิ้นหรือไม่ต้องการตำแหน่งงานนั้นแล้ว ก็สามารถ ยุบทีมหรือตำแหน่งนั้นได้โดยง่าย แต่เมื่อมีโปรเจ็กต์ใหม่หรือต้องการตำแหน่งนั้นอีกก็สามารถหาฟรีแลนซ์ใหม่หรือคนเดิมเข้ามาก็ได้ 

โครงสร้างรูปแบบนี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขยายได้ในระดับสูง และบริษัทสามารถนำทักษะและความเชี่ยวชาญใหม่ๆ เข้ามาได้ตามต้องการ 

เลือกรูปแบบทีม SEO อย่างไรให้เหมาะสม

การสร้างทีม SEO มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณา โดยสิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำคือการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ SEO เว็บไซต์ของคุณด้วยการตรวจสอบภาพรวมการแข่งขันของคำหลักที่เป็นเป้าหมายการกำหนดเป้าหมาย คุณอาจเริ่มจากคำถามง่าย ๆ เช่น 

  • คำหลักที่ต้องการมีอะไรบ้าง 
  • คำหลักเหล่านั้นมีการแข่งขันสูงเพียงใด 
  • ผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ของคุณเป็นอย่างไร 
  • เหตุผลที่ผลการจัดอันดับเป็นแบบนั้นเพราะอะไร 
  • เป้าหมายของคุณคืออะไร 

แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ถึงความต้องการในการจ้างงานของคุณจากการวิเคราะห์ว่าจากสภาพการแข่งขันดังกล่าว บทบาทใดบ้างที่ต้องนำมาเติมเต็มเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ตัวอย่างเช่น หากขณะนี้คุณมีเนื้อหาจำนวนมากแต่เนื้อหาไม่ติดอันดับ คุณจะต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสร้างลิงก์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำหนดเป้าหมายคำหลักที่มีการแข่งขันสูง แต่ถ้าคุณยังไม่มีเนื้อหามากนัก คุณควรมุ่งเน้นที่การสร้างทีมเนื้อหาให้มากขึ้น เป็นต้น

สุดท้ายเมื่อได้องค์ประกอบของทีมแล้ว ก็มาพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ งบประมาณในการจ้างพนักงาน วัฒนธรรมองค์กร ลักษณะการทำงานขององค์กร โครงสร้างดั้งเดิมขององค์กร วิธีการทำงานขององค์กรประกอบกัน 

อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นว่าบริษัทของคุณจะต้องใช้รูปแบบทีม SEO ใดรูปแบบหนึ่งเท่านั้น รูปแบบเหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ตามความเหมาะสมของบริษัทของคุณ ทีมนักรบขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของบริษัททุกคนให้สามารถมีทีม SEO ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณได้ เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีต่อไปในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง