SEO Agency vs In-House SEO Team แบบไหนดีกว่ากัน ?

seo freelance vs agency

สำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน การทำตามตัวอย่างที่ได้ผลแล้ว มีส่วนช่วยเพิ่มความสำเร็จเป็นอย่างมาก เช่น การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อได้รับอันดับที่ดีในกูเกิลเสิร์ช การมีคีย์เวิร์ดสำคัญๆที่ติดหน้าแรกกูเกิล ส่งผลต่อจำนวนทราพฟิคที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย แต่ใครล่ะจะเป็นคนทำ SEO ได้ดี ระหว่างการสร้าง SEO In-house Team หรือจ้าง SEO agency มาช่วย

ในบทความนี้จะพูดถึงเรื่อง…

  • In-house SEO และ SEO Agency คือ อะไร ?
  • ความแตกต่างระหว่างทั้งสองและข้อดีข้อเสียต่างๆ
  • แบบไหนที่เหมาะกับเรา

SEO In-house Team คือ…

SEO in-house team คือ การสร้างทีมการตลาดเอสอีโอขึ้นมาเองภายในหน่วยงาน อาจจะคัดคนที่น่าสนใจ มีพื้นฐาน หรือมีหน่วยก้านดีพอที่จะฝึกฝนและพัฒนาต่อไปเป็นตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สมาชิกในทีม In-house SEO จะมีตำแหน่งเรียกเช่น

  • SEO Specialist
  • SEO Manager
  • SEO Director

จำนวนสมาชิกในทีมและชื่อเรียกตำแหน่ง จะขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทที่จัดตั้งทีม

SEO agency คือ…

SEO Agency คือ ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Search engine optimization ซึ่งมีความแตกต่างจากหน่วยงานอื่นๆ เอเจนซี่จะทำงานร่วมกับลูกค้าในการทำ SEO Audits และอาจรวมถึงการวางกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาทางเทคนิคให้อีกด้วยทั้งในส่วนของ Technical SEO , Onpage SEO, Offpage SEO, Keyword Research และส่วนสำคัญอื่นๆอีกมากมาย

ความแตกต่างระหว่าง In-house SEO และ SEO Agency

ความแตกต่างสามารถมองได้หลายแบบ เช่น ความรวดเร็วในการทำงาน ทักษะความถนัดในสายงาน ราคา และความคุ้มค่าการลงทุน

โดยทั่วไปแล้ว การจ้างทำจะได้มืออาชีพมาทำงาน ปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการสร้างทีมเอง และเริ่มต้นทำงานได้เร็วกกว่าสร้างทีมเอง

ถึงจุดนี้คุณอาจจะเลือกไม่ถูกว่าจะสร้างทีมเองหรือจ้างเอเจนซี่ดี ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบด้านล่างนี้ ไว้ประกอบการตัดสินใจครับ

ข้อดี-ข้อเสียของการสร้าง In-house SEO Team

ข้อดี :

  • สามารถมองเห็นเนื้องานที่คืบหน้าได้ชัดเจนกว่า และสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็วกว่า
  • ทีมงานรับผิดชอบเกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทตัวเองเท่านั้น
  • ทีมงานภายในบริษัท มีความเข้าใจวัฒนธรรม คุณค่าและภาพรวมของกิจการได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
  • ทีมงานจะประสานงานกับทีมอื่นได้ เพราะมีความคุ้นเคยกับทีมงานอื่นๆ เช่น ทีม PR, ทีม Web Dev, ทีมขาย และทีมโซเชียลมีเดีย

ข้อเสีย :

  • ใช้เวลาฝึกฝนทีมงานนาน เพราะอาจจะต้องเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐาน
  • แบกรับค่าใช้จ่ายของทีมงานประจำทั้งทีม และค่าชดเชยต่างๆกรณีให้ออกจากงาน
  • ทีมงานอาจไม่มีเวลาจัดการทำเอสอีโอเต็มที่ เพราะอาจมีงานเดิมที่ดูแลอยู่แล้ว
  • เนื้องานและผลงานการทำเอสอีโออาจช้าหรือน้อยเกินไป เพราะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ เนื่องจากขาดประสบการณ์

ข้อดี-ข้อเสียของการจ้าง SEO Agency

ข้อดี :

  • การจ้าง SEO Agency จะสามารถมีคนทำงานที่มีประสบการณ์พร้อมทำงานได้เลย เร่ิมต้นได้เร็วกว่า
  • การปรับเปลี่ยนเอเจนซี่หลังหมดสัญญาได้ง่ายกว่าการเปลี่ยนทีมภายหน่วยงาน
  • โดยส่วนใหญ่ Agency จะมีการติดตามและอับเดทความรู้ในแวดวงเอสอีโอได้ดีกว่าทีมงานภายในหน่วยงาน

ข้อเสีย :

  • เอเจนซี่อาจรับงานมากเกินไป ทำให้ดูแลลูกค้าไม่เต็มที่
  • การติดต่อประสานงานกัน จะทำได้ช้ากว่า
  • การค้นหาเอเจซี่ที่เหมาะกับกิจการของตัวเองทำได้ยาก และต้องใช้เวลา
  • มีราคาสูงกว่าเพราะต้องจ่าย 2 ต่อ ให้กับทีมงานและส่วนต่างกำไรของเอเจนซี่

เลือกแบบไหนดี

การเลือก SEO Agency หรือ In-house team อยู่บนพื้นฐานของหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน และปัจจัยหลักที่มีผลมาก คือขนาดของกิจการและการแข่งขัน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ การเลือกตัวเองหรือหุ้นส่วนหลัก ดูแลการตลาดดิจิทัลก่อนเป็นเรื่องดีที่ และสามารถต่อยอดไปยังการสร้างทีม หรือจะประสานงานกับเอเจนซี่ก็สามารถทำได้ เพราะมีประสบการณ์อยู่บ้าง จะช่วยประหยัดและลดความเสี่ยงได้อย่างหลายด้าน

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการขนาดกลาง-ใหญ่ การเลือกจ้างเอเจนซี่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เพราะการทำงานของมืออาชีพจะช่วยขัดเกลาทีมงานภายในองค์กรไปพร้อมๆกัน และเริ่มทำการตลาดได้ทันที หลังจากนั้นทีมภายในหน่วยงานได้เรียนรู้จากเอเจนซี่ ก็สามารถสร้างทีมภายในขึ้นมาทีหลังได้

บทความนี้เป็นการฝึกเรียนรู้แปล และ เรียบเรียงจากคนเก่งต่างประเทศ :
Credit https://www.pepperlandmarketing.com/blog/in-house-seo-vs-agency 80%
และเสริมตามประสบการณ์ตัวเองอีก 20%