ใน โลกที่วุ่นวายโลกที่สับสนยุ่งเหยิงเต็มไปหมดแบบนี้ มีทั้งเทคโนโลยี และความบันเทิงมากมาย ที่ดึงคุณออกจากเป้าหมายในชีวิต นักรบถามคุณตรงๆว่า ชีวิตนี้คุณต้องการอะไร?
หากคุณดูโฆษณาทีวี ฟังวิทยุ และท่อง Internet ลองสังเกตดีๆ สื่อทุกชนิดที่ผ่านตาในแต่ละวัน คุณจะเห็นว่า มันมีโฆษณาแฝงมาเพื่อขายของทั้งนั้น มันไว้ขายให้มนุษย์เงินเดือนที่มีรายรับทุกเดือนเป็นหลักอย่างไรล่ะ (ใต้โพสนี้ ยังมีคอร์สเรียนที่นักรบโพสไว้ขายคนที่สนใจเลย)
มนุษย์เงินเดือนเป็นสายพันธ์ุอาชีพที่มีเยอะที่สุดในโลก เขาเหล่านั้นได้เงินเดือนทุกเดือน จะเหลือมากเหลือน้อยก็แล้วแต่ ถ้าเจ้าของธุรกิจดึงเงินจากกระเป๋าคุณได้แม้เพียงคนละ 500 บาท แค่สัก 10,000 คน เขาก็มีรายได้ 5,000,000 บาทแล้ว
แล้วมนุษย์เงินเดือนล่ะ ต้องใช้เวลาสักกี่ปี ถึงจะมีเงิน 5 ล้านบาท ถ้าเก็บสักเดือนล่ะ 10,000 บาท คุณต้องใช้เวลา 41 ปี นะครับ
เห็นตัวเลขแล้ว คุณเข้าใจสิ่งที่นักรบต้องการสื่อความหมายไหม ?
ทำไมคุณยังคิดแบบมนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำ และเชื่อคำโฆษณามากมาย ที่หลอกให้คุณควักเงินซื้อของไม่จำเป็นกับชีวิตอีกล่ะครับ ถ้าคำตอบของคุณคือ “เพราะมันต้องหาเงินเดือนมาเลี้ยงตัวเอง จ่ายค่าหนี้ที่สร้างไว้ไง” นักรบจะถามกลับว่า แล้วจะคิดและทำอย่างไร เพื่อให้มีธุรกิจเสริมทำควบคู่งานประจำได้ ในอนาคตงานเสริมอาจเป็นธุรกิจที่ดันคุณหลุดออกจากโลกมนุษย์เงินเดือนดังที่คุณหวังก็ได้
เริ่มด้วยคำถามง่ายๆที่ถูกจุด ฉุดให้คุณออกจากกรอบความคิดที่ขวางกันคุณไว้ คุณจะแก้ไขปัญหาอะไรก็ได้ ขอแค่คุณต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงบวกที่ทำให้คุณเดินหน้าต่อได้ครับ
หลักในการเปลี่ยนชีวิต หลุดความคิดและออกจากกรอบ
การที่คุณจะหลุดจากกรอบความคิดเดิมๆ ที่ขวางกั้นคุณให้อยู่แต่ในโลกของมนุษย์เงินเดือน คุณต้องผลักสิ่งแวดล้อมแย่ๆที่ส่งผลแย่ๆออกไปก่อน
เริ่มต้นด้วยเพื่อนร่วมงานแย่ๆที่คิดแบบผู้บริโภค ที่ทั้งวันคุยแต่จะใช้เงิน แต่ให้มองหาเพื่อนที่คิดแบบเจ้าของธุรกิจ คิดแบบจะหาเงินและลงมือทำจริงครับ
ขั้นที่ 1 ตัดเพื่อนที่คิดแค่ว่า เดือนนี้จะ “ใช้เงินซื้ออะไร”
และหาเพื่อนที่คิดแต่เรื่อง “หาเงินได้อย่างไร ”
มันเป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ ในการเปลี่ยนสภาวะแวดล้อม ให้เอื้อประโยชน์ทางความคิด ให้มุ่งแต่จะทำธุรกิจเสริมหาเงิน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เพื่อนที่ทำงานรอบตัวเรามีผลอย่างมากในวิธีคิดของเรา มีเพื่อนดีส่งผลดี มีเพื่อนแย่ส่งผลแย่ ที่นักรบกล้าพูดแบบนี้ได้ เพราะนักรบเคยผ่านมันมาแล้ว และรู้ดีว่าการมีเพื่อนร่วมงานที่ดีส่งผลให้ชีวิต ที่ทำธุรกิจควบคู่งานประจำมันดี และไปรุ่งมากแค่ไหน
ขั้นที่ 2 เลิกฟังเสียงภายนอก และค้นหาเป้าหมายในชีวิตจากเสียงที่ดังภายในใจ
เรื่องนี้นักรบซีเรียจสุดๆ เพราะโลกเรามันเต็มไปด้วยเสียงจากคนอื่น ทั้งผ่านปากต่อปาก หรือผ่านสื่อต่างๆทุกชนิด มันหลอกให้เราไขว้เขวเยอะแยะเต็มไปหมด หากเสียงภายในใจคุณไม่ดังกว่าเสียงคนอื่น ชาตินี้ทั้งชาติคุณก็ทำตามแต่คนอื่นบอก ไม่เคยใช้ชีวิตจริงเพื่อความฝันและเป้าหมาย ( Goal ) ของตัวเองเลย ถ้าคุณต้องการจะใช้ชีวิตจริงๆเพื่อเป้าหมายของตัวเองได้ คุณต้องวางแผนที่ละเล็กทีละน้อย ทั้งการเคลียหนี้สิน เตรียมเงิน เตรียมธุรกิจเพื่อออกมาทำตามความฝัน โดยคุณเตรียมสิ่งเหล่านี้ได้ ในช่วงสมัยทำงานประจำครับ
หากคุณผ่าน 2 ข้อนี้ไปแล้ว คือ ตัดเพื่อนที่คิดแต่จะใช้เงิน ให้หาเพื่อนที่คิดจะหาเงิน + เลิกฟังเสียงภายนอก ให้ค้นหาเป้าหมายชีวิตและฟังเสียงภายในตัวเองว่าชีวิตต้องการอะไร คุณจะได้ ขุมพลัง 3 ข้อ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต
3 ขุมพลัง มนุษย์เงินเดือนทำธุรกิจ พลิกอนาคต
- เป้าหมายในชีวิต (Goal)
- เหตุผลที่จะทำ (Why)
- รักที่จะทำสม่ำเสมอ ( Passion to do)
อ๋อ อย่าลืมดูด้วยว่า Goal, Why และ Passion to do ที่คุณมี มันเพื่อตัวเอง หรือเพื่อคนที่คุณรัก ถ้าคุณอยากรวย เพื่อตัวเอง คุณก็ไปได้ไม่ไกล ขออภัยที่พูดตรงๆ แต่ถ้าคุณอยากรวย อยากประสบความสำเร็จ เพื่อคนที่คุณรัก หรือครอบครัวคุณ แบบนี้คุณมีสิทธิ์
คุณจะมีสิ่งๆหนึ่งที่คนประสบความสำเร็จพูดกันมาเป็นร้อยๆปี นั้นคือ เป้าหมาย (Goal) เหตุผลที่จะทำ (Why) และ รักที่จะทำสม่ำเสมอ ( Passion to do) โดย 3 สิ่งนี้จำเป็นมากๆ ส่งผลต่อขุมพลังใจการลงมือทั้งชีวิตจนประสบความสำเร็จ
ทำไมคุณถึงไม่มี Goal, Why และ Passion
คำตอบง่ายๆ ว่าทำไมคุณถึงไม่มี เป้าหมาย, เหตุผลที่จะทำ และ ความรักที่จะทำเลย นั้นก็เพราะ ทั้งชีวิตคุณไม่เคยฟังเสียงภายในตัวเองเลย ไม่เคยค้นหาเลยว่าชีวิตคุณต้องการอะไร หรือว่า คุณไม่เคยผ่านประสบการณ์แย่ๆแบบเป็นตายเท่ากันมาก่อนเลย
เปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบสุดเหวี่ยงและก้าวกระโดด มันอาศัยปัจจัย 2 ข้อ
- วิสัยทัศน์ จากความรู้ ที่คุณต้องสั่งสมเป็นปีๆ จากการลงมือทำของตัวเอง
- วิกฤตปัญหาชีวิต แบบเฉียดตาย หรือ ที่บ้านล้มละลาย ปัญหาหนักจะผลักดันให้คิดได้
ถ้าคุณไม่มี ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบสุดเหวี่ยง ก้าวกระโดดจนแม้แต่ตัวคุณเองยังตกใจ
สรุปโดยนักรบ
หากทั้งชีวิตคุณไม่มีความมั่นใจ และไม่รู้เลยว่าชีวิตต้องการอะไร ขอให้คุณหยุดทุกอย่างบ้างและฟังเสียงตัวเอง ถ้าคุณฟังเสียงตัวเองไม่เป็น แปลว่าคุณไม่มีสมาธิเพียงพอ จิตใจของคุณมันวุ่นวายเกินไป จงแก้ที่จิตใจของคุณก่อน ใช้หลักทางพุทธศาสนา สร้างสมาธิให้ใจแน่วแน่ นิ่งและสงบมากพอ เมื่อใจคุณนิ่งและสงบ คุณจะได้ยินเสียงภายในตัวเอง