Skip to content
สรุปเนื้อหา : EP03 : แนะนำ SE Ranking SEO Tools เริ่มต้นทำ SEO และทดลองใช้งานฟรี
1. ทักษะ SEO และเส้นทางอาชีพ
- SEO เป็นทักษะสายอาชีพที่สำคัญสำหรับ SEO Specialist สามารถแตกแขนงเป็น Technical SEO Specialist, SEO Analysis, Content SEO specialist
- สามารถต่อยอดไปสู่การเป็น Entrepreneur ผู้ประกอบการ, ทำ SEO Agency, หรือร่วม Partner ทำธุรกิจออนไลน์จนถึงระดับบริษัทนิติบุคคล
- หากทำ SEO ได้ จะช่วยให้ทำ Marketing อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น Google Ads, Facebook Ads, เนื่องจาก SEO มีปัจจัยที่ซับซ้อนและเยอะมาก
2. จุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ SEO
- อันดับแรก แนะนำให้ซื้อหนังสือมาอ่านเพื่อปูพื้นฐาน เป็นวิธีที่ถูกที่สุด (ราคาประมาณ 2-300 บาท) แนะนำหนังสือ “ดันเว็บไซต์ให้ดังด้วย SEO”
- สเต็ปถัดมา แนะนำให้ใช้เครื่องมือ SEO (SEO Tool)
- การเรียนรู้จากการอ่านหนังสือ, ทดลองใช้เครื่องมือ, อ่านคู่มือ (Help), ดูวิดีโอ YouTube (รวมถึงช่องของผู้พูด)
- กระบวนการเรียนรู้ SEO อาจใช้เวลา 2-3 เดือน หรือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- ความยากของ SEO ทำให้มีคู่แข่งน้อยกว่าการทำอย่างอื่นที่ง่ายกว่า เช่น การยิง Ads
3. เครื่องมือ SEO ที่แนะนำ SE Ranking
- การใช้เครื่องมือช่วยให้ทำงาน SEO ได้อย่างชาญฉลาดและทันต่อเทคโนโลยี เพราะเครื่องมือถูกพัฒนาโดยทีมงานและรวบรวมปัจจัยต่างๆ มาให้
- แนะนำให้ใช้ SE Ranking
- สามารถทดลองใช้งานฟรี 30 วันโดยไม่ต้องใส่บัตรเครดิต หากคลิ๊กผ่านลิ้งของนักรบ
- เป็นเครื่องมือที่ควรทดลองใช้อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต
- ผู้พูดเป็น Education Partnership กับ SE Ranking และมีส่วนลดหากสมัครผ่านผู้พูด
- สามารถซื้อโปรแกรมกับ SE Ranking โดยตรงก็ได้
4. เปรียบเทียบ SE Ranking กับ SEMrush
- SEMrush เป็นเครื่องมือ SEO ที่นิยมอันดับ 1 ของตลาดโลก ได้รับรีวิว 4.5/5 จาก 2,618 คนบน G2 Review
- SEMrush มี Market share ใน Small Business 66% และ Medium Business 28% แต่มีราคาสูง
- SEMrush อาจใช้งานยากสำหรับเว็บภาษาไทยในบางฟังก์ชัน เช่น การเช็คคีย์เวิร์ด
- SE Ranking ได้รับรีวิว 4.8/5 จาก 1,374 คนบน G2 Review
- SE Ranking เจาะกลุ่ม Small Business 90% ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ผู้พูดต้องการเผยแพร่ความรู้ (เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก, ฟรีแลนซ์, บุคคลทั่วไป)
- SE Ranking มีราคาถูกกว่า SEMrush ประมาณ 2-3 เท่า
- SE Ranking รองรับภาษาไทยได้ดีกว่า
- SEMrush เป็นเครื่องมือ 360 องศา Digital Marketing (มี Digital Analytics, Social Media) ซึ่งไม่ได้เน้น SEO อย่างเดียว
- SE Ranking เน้นเฉพาะ SEO แต่มีฟีเจอร์ SEO ที่ดีกว่าหรือมีคะแนนสูงกว่าในหลายด้าน เช่น Local SEO
- ในแง่ Market Segment สำหรับ Small Business, SE Ranking เป็นอันดับ 1
5. เหตุผลที่ต้องใช้เครื่องมือ SEO
- SEO มีปัจจัยเยอะมาก บางทีเป็นร้อยๆ ข้อ
- หนังสือให้พื้นฐาน แต่ตามเทคโนโลยีไม่ทัน
- เครื่องมือถูกพัฒนาโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญหลายคน ช่วยกลั่นกรองปัจจัยให้ง่ายต่อการทำงาน
- ช่วยให้ทำงานได้ชาญฉลาดขึ้น ไม่ใช่แค่คิดเองจากประสบการณ์ส่วนตัว
- รวมประสบการณ์จากคนอื่นและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
6. งานหลักในการทำเว็บไซต์ SEO คือการสร้างเนื้อหา (Content)
- เนื้อหางานที่เยอะที่สุดในการทำเว็บไซต์ SEO คือ การผลิต Content โดยเฉพาะ Content สำหรับ SEO
- ปัจจุบันต้องนำ AI มาใช้และทำวิดีโอ
- ในการทำงานเป็นทีม อาจแบ่งงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ 1 คน และผู้ผลิต Content/ดูแล Technical 1 คน
- สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก สามารถทำเองทั้งหมดได้ในคนเดียว เช่น คุม Content, คุมเครื่องมือ, วัดผลด้วย Search Console
7. SEO เชิงเทคนิคและเครื่องมืออื่นๆ
- SEO เป็นเรื่องใหญ่และมีรายละเอียดมาก
- ฟังก์ชันสำคัญของเครื่องมือ SEO เช่น Keyword Research, Competitor Analysis, Keyword Difficulty, Search Engine Results Page (SERP), On-Page SEO, SEO Factor เป็นต้น
- การใช้ปลั๊กอิน SEO สำหรับ WordPress เช่น Rank Math, WP Rocket (ผู้พูดอาจแถมฟรีให้กับลูกศิษย์/ลูกค้าให้คำปรึกษาเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กประหยัดต้นทุน)
- เครื่องมืออื่นๆ ที่แนะนำ เช่น Ubersuggest, Google Search Console, Keyword Planner, keywordtool.io, Screaming Frog (สำหรับคนมีงบ)
- Search Console เป็นเครื่องมือสำหรับวัดผล
- ฟังก์ชัน Local SEO ใน SE Ranking เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจในต่างจังหวัด (ช่วยเช็คคนค้นหาใน Google Maps)
- เครื่องมือ Content AI สามารถใช้ได้ทั้งจากในเครื่องมือ SEO หรือเครื่องมือภายนอกอื่นๆ
8. การต่อยอดธุรกิจด้วย SEO และการหา Partner
- การทำเว็บไซต์เองด้วย WordPress และทำ SEO เป็น ช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก (อาจสูงถึง 5-6 หมื่นบาทหากจ้าง)
- นักรบต้องการช่วยเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก, Freelance ที่พร้อมจะเริ่มทำ SEO และ WordPress อย่างจริงจัง
- สำหรับคนที่ทำเว็บไซต์และ SEO ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำธุรกิจหรือการหา Partner
- Partner ควรมีประสบการณ์ 1-3 ปีในสาขาบริการนั้นๆ
- เน้นการทำธุรกิจบริการแบบ B2B (Business to Business) เพราะมีมูลค่าสูงและมั่นคงกว่า B2C (Retail) ซึ่งเหมาะกับ E-market place/Social Media มากกว่า
- Partner สามารถหาได้หลังจากทำเว็บไซต์และ SEO ให้เสร็จก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจและมีผลงานไปคุย
- ต้องวิเคราะห์ธุรกิจกับ Partner อย่างละเอียด เช่น SWOT, มูลค่าตลาด, ข้อมูลงบการเงิน (จากเว็บ DBD), เจาะกลุ่มจังหวัด
- แนะนำให้ทำธุรกิจที่มีความมั่นคง 5-10 ปี ไม่ใช่ธุรกิจที่มาเร็วไปเร็วตามกระแส
- ควรเป็นเจ้าของช่องทางออนไลน์และโลโก้ (หรือร่วมเป็นเจ้าของ) เพื่อให้สามารถเปลี่ยน Partner ได้ง่ายในอนาคต
- ความโปร่งใสในการทำบัญชีสามารถใช้โปรแกรมช่วยได้
- การหา Partner และการทำธุรกิจร่วม เป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้เมื่อทำไปสักพัก
- ทักษะ Marketing (Website+SEO) เป็นไม้ตายที่ช่วยให้สามารถขยายเป็นธุรกิจที่ 1, 2, 3 ได้ ผู้พูดมีหลายธุรกิจที่ขยายด้วยวิธีนี้
9. ภาพรวมเครื่องมือ SEO และสรุป
- สรุปภาพรวมเครื่องมือ SEO ที่จำเป็น เช่น SE Ranking, WP Rocket (สำหรับ WordPress), Rank Match, Search Console, เครื่องมือ Google อื่นๆ
- การเจาะลึกฟังก์ชันของเครื่องมือเหล่านี้จะเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น
- แนะนำให้ทดลองใช้เครื่องมือฟรีดูก่อน