นักรบสร้างธุรกิจส่วนตัว ทำธุรกิจออนไลน์ Infopreneur + Solopreneur

ก้าวสู่ยุคทองของนักเขียน (Writer) สร้างธุรกิจส่วนตัว บนโลกออนไลน์

นักรบสร้างธุรกิจส่วนตัว ทำธุรกิจออนไลน์

 มีธุรกิจส่วนตัวด้วยตัวคนเดียว ( Solopreneur )

นาทีที่ 0 – 00:53 สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ warrior นับรบสอนทำธุรกิจนะครับ วิดีโอนี้ผมจะพูดถึงกลยุทธ์นะครับที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วที่ผมใช้วางกลยุทธ์ในการทำธุรกิจส่วนตัวนะครับ แล้วเติบโตขึ้นมาได้ สร้างยอดขายได้นะครับ จนสามารถที่ผมจะเปิดบริษัทของตัวเองได้เลย งั้นนะครับ และปีนี้นะครับผมจะพูดถึงกลยุทธ์ที่ผมจะใช้ในปีนี้ ซึ่งกลยุทธ์และแนวคิดวิธีการ และวิธีทำนะครับ คุณผู้ฟังหรือลูกค้านะครับที่สนใจจะสร้างธุรกิจแบบสร้างด้วยตัวคนเดียวนะครับ และใช้งบน้อยเนี่ย สามารถนำไปประยุกต์ใช้และปรับใช้ได้นะครับ เพื่อที่จะทำให้คุณเนี่ยต่อกรกับคู่แข่งที่ขนาดใหญ่กว่า บริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า หรือมีกำลังคน มีกำลังเงินมากกว่า  ที่เขาจะสามารถที่จะใช้เงินนะครับทุ่มโฆษณาได้ ซึ่งคุณจะเล่นการโฆษณาสู้เขาไม่ได้เด็ดขาด ฉะนั้นคุณต้องเล่นกลยุทธ์แบบอื่น ในแบบที่ผมจะนำเสนอไปนะครับ นาทีที่ 00:54 – 01:49 คราวนี้กลับมาเข้ามาที่เว็บไซต์ขอผมนะครับ warrior.in.th นะครับ เป็นเว็บไซต์ชื่อว่า “นักรบทำธุรกิจ” สอนคนทำธุรกิจออนไลน์นะครับ มีธุรกิจส่วนตัวได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งศัพท์ภาษาต่างประเทศเรียกกว่า Solopreneur และผมเพิ่มเข้าไปอีกว่าคุณต้องใช้กลยุทธ์การเป็น infopreneur เจอกลุ่มตลาดเฉพาะ Niche Market ความหมายคืองี้นะครับ  Solopreneur คือการทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียว เป็นผู้ประกอบการ ส่วน infopreneur เนี่ย ความหมายของต่างประเทศคือ เป็นคนที่ขายความรู้นะครับ ขายประสบการณ์ชีวิตอะไรต่างๆ หรือว่าเป็นเทคนิค Knowhow, knowledge อะไรก็แล้วแต่ของเขา ผ่านรูปแบบของ Digital product อย่างเช่นนะครับ อาจจะเป็น DVD,  E-books หรืออาจจะถ้าเขาเริ่มเก่งขึ้น เขาจะเริ่มจัดสัมมนา หรืออาจจะโค้ชชิ่งออนไลน์ ตอบปัญหาตามอีเมล์ หรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ นั่นคือ infopreneur ในต่างประเทศ คราวนี้เราจะหยิบคำว่า infopreneur หรือทักษะเนี่ยมาใช้ในการสร้าง personal brand นาทีที่ 01:50 – 02:42 สำหรับคนที่ทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวนะครับ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดแบบ Niche Market ประเด็นเลยนะครับ วันที่คุณมีข้อมูลมหาศาลในตัวมากพอนะครับ คุณเป็นผู้ประกอบการที่มีความรู้มี information พร้อมที่จะปล่อยออกไปให้กับลูกค้า กลุ่มลูกค้าของคุณ นอกจาก แม้แต่ลูกค้าของคุณยังไม่ซื้อ product ของคุณนะครับ ลูกค้าของคุณจะรู้จักคุณอย่างดีในนามของคนที่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ในสินค้าหรือในบริการนั้นๆ นั่นคือประเด็นครับ นั่นเป็นอาวุธ อาวุธเดียวที่ดีที่สุด ที่คุณจะใช้ต่อกรกับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจของคู่แข่งที่มีเงิน ในการโฆษณาหรือมีกำลังคนในการทำข้อมูลและการตลาด นั่นเหตุผลเพราะว่าคู่แข่งหรือบริษัทขนาดใหญ่เขาจะไม่ใช่คนในการสร้าง personal brand ยกเว้นบางแบรนด์จริงๆนะครับ ซึ่งมีน้อยมากในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนใหญ่เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ 99% เลยจะใช้ Logo ของบริษัทครับ นาทีที่ 02:43 – 03:17 อันที่สองคือเขาจะใช้กำลังคนในการผลิต Content มาหรือใช้ agency จ้างโฆษณา ทำวิดีโอ หรือว่าใช้เทคนิคในด้านการตลาดเยอะแยะเต็มไปหมดเลยการออกแบบ packaging  อะไรต่างๆเพื่อที่จะสร้างแบรนด์ สร้างการจดจำ หรือสร้างให้คนรู้จัก ซื้อ หรือ อาจจะเป็นโปรโมชัน นั่นก็คือเทคนิคที่เราทำกันมาเป็นสิบๆปีเรียบร้อยแล้ว แต่เท่านี้คุณทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวนะครับ แล้วคุณจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งหรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง และเก่งที่สุดในโลก ในสาขาที่คุณทำอยู่นะครับ ในประเทศไทย คุณต้องเดินกลยุทธ์ infopreneur เหมือนที่ผมพูดไว้นะครับ นาทีที่ 03:18 – 04:55 ครั้งนี้ผมจะเล่าถึงอดีตที่ผ่านมา ว่าผมเดินกลยุทธ์แบบนี้ได้อย่างไร แล้ววิธีคิดแบบไหนที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จนะครับ ผมไล่กลับมา ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วนะครับ ปีที่แล้ว ผมทำเกี่ยวกับเรื่องสอน WordPress ครับ เว็บไซต์ผมก็หน้าตาแบบนี้ครับ มีวิดีโอประมาณนี้อยู่ เมนูผมเปลี่ยนไปแล้วนะครับ เพราะว่าผมจะ Link ไปที่เว็บไซต์ใหม่ ส่วนหน้าตาวิดีโอเก่า มีแค่เนี้ยนะครับ ผมสอนการใช้งาน WordPress นะครับ และนี่ก็เป็น ถ้าแฟนเพจเก่าๆก็ประมาณ ไม่กี่พันนะครับ  สองสามพัน แล้วก็ผมมีแค่คอร์สที่ขายอยู่ในเว็บไซต์ของผมนะครับแค่นี้เอง นิดเดียวเองนะครับ คือแทบจะนิดเดียว สองสามคอร์สเองนะครับ คอร์สละไม่กี่พันบาท นั่นคือเป็นช่วงเริ่มต้นของผม ทำธุรกิจ แต่ผม สิ่งที่ผมทำต่างออกไปก็คือว่า ผมใช้แนวคิดนะครับ ละก็ความรู้ ทักษะของเรื่อง infopreneur ช่วยในการให้ข้อมูลลูกค้าที่เป็นประโยชน์ก่อน แล้วคุณค่อยขายสินค้า นั่นก็เหตุผลเพราะ ลูกค้านะครับ หรือว่าคนที่ซื้อสินค้าของคุณเนี่ย เขาจะซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อแน่ใจว่าสินค้าของคุณเนี่ยทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นจริงๆ หรือว่าช่วยแก้ปัญหาในชีวิตเขาได้นะครับ ฉะนั้นคุณต้องมีวิดีโอมีความรู้มี E-book ที่แจกฟรี หรือให้ความรู้เป็นระยะๆ เพื่อทำให้ลูกค้าใช้ในการประกอบการตัดสินใจว่า สินค้าของคุณ ดีจริง! แล้วเขาถึงจะซื้อ ถึงเขาไม่ซื้อนะครับ เขาจะใช้วิธีการบอกปากต่อปากเพื่อแนะนำว่าคุณเนี่ยคือ Expert ในด้านนี้ คุณมีความรู้จริงในด้านนี้ แล้วลูกค้าก็จะวิ่งมาหาคุณเพื่อสนับสนุนสินค้าของคุณนะครับ นี่คือเทคนิคของ infopreneur นาทีที่ 04:56 – 05:52 คราวนี้กลับมาดูนะครับว่าผมใช้แนวคิดอะไรอีกนะครับ เริ่ม เทคนิคถัดไปที่ผมใช้นะครับ ผมทำเกี่ยวกบเรื่องสอน WordPress สอน WordPress นะครับ เวลา Search ใน Google นะครับ ผมจะอยู่ในประมาณอันดับที่ประมาณนะครับ ประมาณที่ 7, 8  หรือ 9 นะครับ ไม่เยอะนะครับ ก็จะมีคนเข้ามาในเว็บไซต์ผมแล้ว คราวนี้กลับมาดูอักเรื่องหนึ่งครับ วิธี เวลากลับไปที่เราจะเริ่มธุรกิจของเราเนี่ย เราต้องใช้วิธีใน Google Adwords  ถูก ช่วยในการหาฐานลูกค้านะครับ เพราะว่าเราจะเริ่มธุรกิจอะไรดี ซึ่ง Google Adwords  เนี่ยมันมีมานานๆ แล้วคนสอนมานานแล้วด้วยนะครับ เราสามารถหาวิธีการสมัคร Google Adwords  ได้ใน Google ได้ไม่ยากนะครับ ผมขอข้ามขั้นตอนนี้ไป พอคุณสมัครเข้ามาปุ๊บนะครับ สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปคือ คุณต้องหาฐานลูกค้า ว่าฐานลูกค้าของคุณเนี่ยมีคนค้นหา product หรือ service เนี่ย ต่อเดือนเท่าไหร่นะครับ นาทีที่ 05:53 – 06:59 อย่างผมเนี่ยพอเข้ามาใน Google Adwords  ปุ๊บ คุณเข้าเครื่องมือนะครับ แล้วเลือกเครื่องมือวางแผนคำหลักครับ ตัวนี้ครับเพื่อที่จะเปิดเข้ามาในเมนูของส่วนนี้ครับ และคุณก็พิมพ์คำที่คุณต้องการเข้าไป ในกรณีของผมเนี่ย ผมพิมพ์คำว่าสอน WordPress เข้าไป เพราะผมทำธุรกิจเกี่ยวกับการสอน สมมุติเรื่อง WordPress นะครับ ซึ่งตอนนั้นนะครับ ธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องการสอนของเรื่อง WordPress มีคน Search ประมาณสี่ร้อย สามร้อยเก้าสิบคนเศษๆนะครับ คือประมาณสี่ร้อยคนต่อเดือนเท่านั้น น้อยมากนะครับ คือแบบแทบจะเป็น Niche ของ Niche ของ Niche Market เลย คือแทบถ้าคือ ถ้าคุณมองแค่ตัวเลข คุณจะรู้สึกว่าคุณจะไม่น่าทำเลยธุรกิจนี้นะครับ แต่สิ่งที่ผมทำนะครับเพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของการสร้างเว็บไซต์ครับ ซึ่งมีคน Search ประมาณสี่ห้าพันคนต่อเดือน ซึ่งการสร้างเว็บไซต์กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น แต่ถ้าวันนี้คุณทำธุรกิจแล้วคุณเปิดเว็บไซต์ แล้วคุณทำเกี่ยวกับเรื่องของวิธีการทำเว็บไซต์ คุณจะชนกับคนทำธุรกิจเกี่ยวกับคนสร้างเว็บไซต์คนก่อนหน้านี้เรียบร้อย ฉะนั้นคุณไม่มีทางขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้เลยครับ นาทีที่ 07:00 – 07:59 การที่คุณจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้นะครับ เรื่องแรก คุณจะต้องมีสิ่งใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกนะครับ บวกกับสิ่งเก่าซึ่งมีอยู่แล้วในประเทศไทย สิ่งเก่าที่มีอยู่แล้วในประเทศไทยคือ การสร้างเว็บไซต์ นะครับ มีคน Search มาแล้วเป็นพันๆๆๆคน แต่คุณยังสามารถเพิ่มสิ่งใหม่เข้ามาใรเมืองไทย นั่นคือเรื่องของ WordPress ซึ่งมีคนรู้จักน้อย แต่ WordPress เนี่ยมีคนนิยมมาแล้วทั่วโลก แล้วเดี๋ยวทำไม เฮ้ย ทำไมการสร้างเว็บไซต์มันคือสิ่งเก่าในเมืองไทย แต่ผมจะหาสิ่งใหม่จากทั่วโลกได้ยังไงนะครับ ผมหาที่ Amazon ครับ  เริ่มต้นผมหาที่ Amazon ผมหาที่ Amazon ผม Search คำว่า WordPress ผมจะเห็นครบทันทีเลยว่ามีคนนะครับ มีคนนะครับหาเกี่ยวกับคำว่า WordPress หรือว่า ขายหนังสือเกี่ยวกับ WordPress เนี่ย สามพันกว่าเล่ม เยอะไหมครับ? นี่คือไอเดียที่ผมได้จาก Amazon นะครับ คือ Amazon เนี่ยเป็นตลาดโลกนะครับ เป็นตลาดความรู้ของโลกนะครับ ฉะนั้นถ้าเปิดคุณจะดูตลดาโลก คุณดู Keywords จาก Amazon ได้ นาทีที่ 07:59 – 08:52 คราวนี้ ใน  WordPress เนี่ย ผมก็ ถ้าคุณใช้ Amazon ไม่เป็น หรือว่ามีวิธีคิดในการหาข้อมูลจากตลาดโลกไม่เป็นนะครับ ผมแนะนำให้ดูวิดีโอที่ผมทำฟรีไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ ก็คือตัวนี้นะครับ วิธีค้นหาธุรกิจออนไลน์โดยใช้แนวคิด Blue Ocean Strategy ซึ่งวิดีโอเนี่ยเป็นวิดีโอที่ผมสอนเอาไว้ฟรี เพื่อให้คุณเนี่ยหาธุรกิจใหม่ๆ โดยใช้วิธีคิดแบบ Blue Ocean Strategy ภายในวิดีโอนี้นะครับ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงใช้ Amazon นี่คือเทคนิคอย่างหนึ่งนะครับ เริ่มแรกนะครับถ้าคุณใช้องค์มากรู้ทั้งหมดในอยู่ในเมืองไทย คุณไม่สามารถสร้างธุรกิจแบบ Blue Ocean Strategy ได้เลย และสิ่งสำคัญ พอคุณสร้างธุรกิจแบบ Blue Ocean Strategy ไม่ได้นะครับ คุณจะทำธุรกิจชนกับคนในเมืองไทยที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นสิบเป็นร้อยคนนะครับ นาทีที่ 08:53 – 09:46 เริ่มแรกคุณต้องชนเป็นสิบเป็นร้อยคน เรื่องที่สองคุณจะชนกับบริษัทหรือว่าคนที่คนหรือกำลังเงินเยอะกว่าคุณนะครับ และถ้าเกิดคุณเล่นเกมส์ในกติกาที่คุณต้องทำ Google Adwords หรือว่า Facebook ทำโฆษณา ยังไงคุณก็แพ้ครับ คุณสู้เขาไม่ได้ และไม่มีทางเป็นเบอร์หนึ่งได้นะครับ  วิธีที่คุณจะเป็นเบอร์หนึ่ง เรื่องแรกนะครับ คุณต้องจับธุรกิจ Blue Ocean Strategy และสอดคล้องกับสิ่งที่คนต้องการในเมืองไทยนะครับ เพื่อที่จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่หรือความรู้ใหม่ หรือสินค้าใหม่ เพื่อตอบสนอง และแก้ปัญหาคน และคนจะสนใจ และคนจะยอมซื้อ และคุณจะขยับเข้าเป็นคนแรกๆของประเทศไทยหรืออันดับต้นๆ เวลาคุณทำเว็บไซต์ คุณทำ Facebook เวลาคนพูดถึงข้อมูล คุณจะเป็นคนอันดับแรก ที่คนนึกถึง และมันจะทำให้คุณเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทยได้ไม่ยาก ที่คือแนวคิดที่ผมทำได้แล้วนะครับ โอเค นาทีที่ 09:47 – 10:37 คราวนี้นะครับ กลับมาเริ่มต่อว่า เฮ้ย! พี่ พี่ทำเรื่องสอน WordPress ขนาดเนี้ย แล้วพี่ขยาย Product แค่เนี้ย พี่ทำได้เท่าไหร่ ผมจะเผยยอดเงินนะครับ หกเดือนย้อนหลังนะครับ ให้ดูนะครับ ผมทำประสบความสำเร็จมากแค่ไหนนะครับ นี่คือสถิติหกเดือนย้อนหลังนะครับ หกเดือนย้อนหลังเมื่อปีที่แล้วนะครับ ประมาณแสนเจ็ด นึกภาพออกไหมครับ? หกเดือนย้อนหลัง ก็ตกประมาณเดือนละสองหมื่นกว่าบาท ไม่เยอะนะครับ มีคนทำได้เยอะกว่าผมนะครับ แต่เนื่องจากสิ่งที่ผมทำเนี่ย ผมเป็นแนวให้ความรู้ เวลาที่คุณเห็นเงินนะครับ หรือว่าเห็นตัวเลข เห็นยอดนะครับ ผมจะสอนวิธีคิดอย่างหนึ่งนะครับ คุณต้องระวังมากนะครับ ว่าเมื่อไหร่ที่คุณทำธุรกิจเพียงเพราะความโลภ หรือเพราะเงินนะครับ คุณจะสูญเสียสิ่งที่เรียกว่าเทคนิคการเป็น infopreneur ไปเลยครับ เพราะเทคนิคการเป็น infopreneur เป็นการเรียนรู้ความรู้ นำมาใช้ และเผยแพร่นะครับ นาทีที่ 10:38 – 12:31 ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณ Start ที่เงินทันทีนะครับ คุณจะห่างไกลคำว่า infopreneur เข้าไปทุกที แล้วคุณจะไม่สามารถที่จะให้ความรู้กับคน หรือให้สิ่งที่มีประโยชน์กับคนเลย เพราคุณคิดแต่อยากจะได้เงินอย่างเดียวนะครับ เทคนิคการใช้กลยุทธ์ infopreneur คุณต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ และช่วยเหลือคนก่อน โดยก่อนที่คุณจะเรียนรู้และเป็นผู้ให้ช่วยเหลือคนได้ คุณต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆก่อนนะครับ ซึ่งไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับการสอนอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ แล้วผมจะบอกต่อไปว่าคุณสามารถที่จะเขยิบเป็นธุรกิจอย่างอื่นได้นะครับ ที่ไม่เกี่ยวกับการสอนได้ โดยใช้เทคนิคของ infopreneur ในการให้ข้อมูล  การให้ข้อมูลนะครับ ไม่ได้แปลว่า แค่เขียนรีวิวนะครับ หรือว่ามี Feedback จากลูกค้าการใช้จริง อันนั้นคือมาตรฐานนะครับ หรือคุณต้องเขยิบไปให้ไกลและลึกกว่านั้นนะครับ ในเรื่องของการให้ข้อมูลของสินค้าและบริการที่เชิงลึกมากขึ้นนะครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจนะครับ เดี๋ยวผมจะพูดในวิดีโอหลังๆ ท้ายๆนะครับ แต่นี่คือเครื่องการันตี ยืนยันว่าปีที่แล้วผมประสบความสำเร็จประมาณนี้นะครับ ซึ่งบวกกับฐานเงินเดือนของผมที่ผมทำงานประจำ เงินเดือนผมประมาณเท่ากับผู้บริหารเลยครับ เท่าผู้บริหารได้เลย แถมต้นทุนผมต่ำกว่ามากนะครับ แต่นึกภาพออกไหมครับ จนผมเปิดบริษัทได้ นี่คือทิศทางนะครับ แต่การที่คุณจะทำได้คุณต้องมีวิธีคิดที่ถูกต้องและวิธีคิดที่ถูกต้องตะส่งผลให้คุณมีวิธีทำที่ถูกต้องตามนะครับ พอผมทำปุ๊บ มีโปรไฟล์ปุ๊บ สิ่งที่ผมทำต่อไปคือ ผมสามารถสร้าง  personal brand ผมแชร์ประสบการณ์ของผมอ่านพันทิปเลยครับ แล้วก็ประสบการณ์ของผมติดกระทู้แนะนำด้วย มีคนถูกกดใจแนะนำ มีคนแชร์นะครับในพันทิป ใน Facebook สี่พันกว่าคนนะครับ นึกภาพออกไหมครับ? มีขึ้นกระทู้แนะนำเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเลขเป็นตัวเลขคนละเดือนกันนะครับ จำนวนเงินไม่เท่ากันนะครับผม นาทีที่ 12:32 – 14:03 คราวนี้กลับมาดูนะครับ ผมจะสอนวิธีคิดที่สำคัญที่สุด เรื่องหนึ่งเลยนะครับของการเป็น infopreneur นะครับ คือคุณต้องเข้าใจก่อนว่าสิ่ง ลูกค้านะครับ จะยอมซื้อของหรือใช้บริการก็ต่อเมื่อมันดีกับเขาจริงๆ หรือส่งผลให้ชีวิตเขาดีขึ้น ฉะนั้นนะครับ ถ้าเกิดวันนี้คุณโพสสินค้า หรือขายสินค้าหรือบริการ คุณมีแค่ราคา แพคเกจนะครับ สต๊อก ซื้อที่ไหน ราคายังไง วิธีซื้อ แค่นี้คุณจบครับ คุณทำ infopreneur ได้ละ! การใช้กลยุทธ์ infopreneur นะครับ คุณต้องให้ข้อมูลที่มากกว่านั้น เดี๋ยวผมค่อยอธิบายต่อไป หรือดูเว็บไซต์ของผมเป็นตัวอย่าง ว่าคุณจะให้ข้อมูลที่มากกว่าได้ยังไง อันดับแรกนะครับ คุณต้องเลือก เดี๋ยวผมเท้าความ อันดับแรกคุณต้องเลือกธุรกิจนะครับ ที่อ้างอิงอยู่บนพื้นฐานของ Blue Ocean Strategy ก่อนนะครับ แล้วคุณเรียนรู้ข้อมูลต่างๆนั้นเพื่อเป็น infopreneur ในการให้ข้อมูลสินค้าหรือว่า สินค้าและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเพื่อนประกอบการตัดสินใจนะครับ นี่คือเทคนิคและแนวทางนะครับ คราวนี้ถัดมาเดี๋ยวผมจะพูดเรื่องอะไรต่อนะครับ  กลับมาที่เว็บไซต์ของผมนะครับ คราวนี้หลังจาก กลยุทธ์ที่ผมใช้นะครับ ในเรื่องของการเลือก เลือกองค์ความรู้จากต่างประเทศเข้ามาแล้วนะครับ ผนวกกับพื้นฐานความต้องการของคนที่ผมสามารถเช็คได้ผ่าน Google adwords นะครับว่า สอน WordPress เนี่ย มัน  Search ค้นหาแค่สองร้อยสามร้อยเอง ไม่เยอะนะครับ แต่คนสร้างเว็บไซต์เนี่ยห้าพันกว่านะครับ ผมชนะคู่แข่งคนอื่นๆ หรือว่าสามารถสร้างจุดยืนขึ้นมาได้เนี่ย เพราะว่าผมใช้เทคนิคของ infopreneur นะครับในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก่อน นาทีที่ 14:03 – 15:05 คราวนี้กลับมาปีนี้นะครับ ผมขยาย scale ธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น ลองดูในนี้ครับ คิดตามนะครับ ว่าผมขยาย scale ธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นได้ยังไง แล้วผมใช้วิธีคิดแบบเดิมหรือเปล่านะครับ  คราวนี้ผมจะขยายธุรกิจ scale ให้ใหญ่ขึ้น คราวนี้นะครับเรามาดูผมนะครับ ผมใช้ขยายธุรกิจ scale ในเรื่องของธุรกิจออนไลน์ และก็ธุรกิจส่วนตัวครับ ที่ทำด้วยตัวคนเดียว นึกภาพออกไหมครับ? เป็นการต่อยอด สิ่งที่ผมทำในอดีต คือคน คือเราไม่ต้องใช้ Google Adwords หรือว่าใช้ Tools ไหนๆช่วยในการหาแล้ว เราก็รู้อยู่แล้ว คำว่า ธุรกิจส่วนตัว มีคน  Search เป็นพันเป็นหมื่นอยู่แล้ว Common sense ง่ายๆ ผมกำลังขยายเสกลธุรกิจนะครับ ขากเดิมเนี่ย WordPress มีคน Search แค่หลักร้อย กลายเป็นหลักพัน นึกภาพออไหมครับ ที่ผมขยายสเกล ธุรกิจเรื่องแรกคือคุณช่วยเหลือคนได้มากขึ้น เรื่องแรกคือคุณช่วยเหลือคนได้มากขึ้น เรื่องที่สองคือธุรกิจของคุณเติบโตครับ ถ้าธุรกิจคุณไม่เติบโตเพราะว่าธุรกิจคุณเริ่มถอยหลัง นึกภาพออกไหมครับ? นาทีที่ 15:06 – 17:07 คราวนี้ผมจะขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น  ขั้นแรกที่ผมจะทำนะครับ  ผมจะ Search ก่อนว่า มีคนค้นหาคำนี้ให้ธุรกิจของผมน่ะเยอะแค่ไหนนะครับ ถ้าคุณ Search คำว่า “ธุรกิจออนไลน์” นะครับ คู่แข่งเพียบเลยครับ คนที่ทำโฆษณา เยอะแยะเต็มไปหมดเลย แต่ผมจะไม่สอนเกี่ยวกับการทำโฆษณา Google Adwords นะครับ เพราะว่าถ้าคุณเดินเส้นทางนี้คุณจะชนกับคู่แข่งที่ใช้เงินทันที ขอตอนนี้ผมจะสอนให้คุณเดินเส้นทางของ infopreneur นะครับ เพื่อที่จะสร้างเว็บไซต์ติดอันดับแบบนี้นะครับ  สีน้ำเงินตรงนี้คือ เส้นทางของ infopreneur นะครับ นั่นแปลว่าคุณจะไม่ใช้เงินในการทำ Google Adwords เลย  หรือ คุณจะใช้ก็ได้ ถ้าเกิดคุณสร้างธุรกิจแล้วมีรายได้ส่วนหนึ่ง คุณจะเอาเงินมาละลายเล่น หรือมาทดสอบสักหมื่นสองหมื่นก็ได้ ซึ่งผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ เวลาคุณทำ Google Adwords วิธีการง่ายๆที่คุณจะเรียนรู้ได้เร็วที่สุดเหมือนการเล่นหุ้นนะครับ คุณต้องยอมขาดทุนก่อน เทคนิคมันแค่นั้นเองครับ คุณต้องยอมล้มก่อน แล้วคุณถึงจะลุกขึ้นใหม่แล้วเรียนรู้ แต่สำหรับช่วงเริ่มต้นของคนทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวนะครับ มีงบน้อย มีเงินน้อย มีคนน้อย คุณต้องเดินกลยุทธ์ที่ผมวางไว้ แล้วคุณจะมีโอกาสเป็นเบอร์หนึ่งนะครับ คราวนี้ กลับมานะครับ Search คำว่า “ธุรกิจออนไลน์” มีคู่แข่งเพียบเลยครับ Search คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” เช่นกันครับ คน Search คำว่าธุรกิจส่วนตัวประมาณสองหมื่นกว่าคน คน  Search คำว่าธุรกิจออนไลน์ประมาณหกพันกว่าคน รวมกันประมาณสามหมื่นเศษ ขยายธุรกิจจากเดิมที่ผมทำแค่สอน WordPress เป็นประมาณสิบเท่าครับ นึกภาพออกไหมครับ? คราวนี้ผมจะใช้กลยุทธ์แบบไหน แล้วทำยังไงต่อ นี่คือผมใช้ Google Adwords เครื่องมือเหมือนเดิมนะครับ ค้น เช็คคำว่าธุรกิจออนไลน์นะครับ เห็นไหมครับ เหมือนเดิมเลย มีคน Search ประมาณนะครับนี่คือ หกพันกว่าคน เห็นไหมครับ คราวนี้มาดูอีกคำหนึ่ง เหมือนเดิมนะครับมีคน Search ประมาณ นะครับสองหมื่นกว่าคน เยอะไหมครับ นาทีที่ 17:08 – 18:12 คราวนี้เยอะหมายความว่าคู่แข่งคุณมีเป็นพันเลยครับ เอาง่ายๆคุณมีเป็นร้อย มีเป็นพันเลย มีทั้งแบบเป็นร้อยที่ออนไลน์ และมีเป็นพันที่ยังไม่ออนไลน์ก็มีเพียบเลย ฉะนั้นเวลาที่จะทำธุรกิจนี้ หรือขยายสเกลธุรกิจนี้นะครับ คุณจะสู้กับคู่แข่งที่อยู่ในประเทศ และคู่แข่งที่อยู่ในประเทศคุณเก่งมา แต่ละคนมีกำลังทรัพย์ กำลังคิด กำลังสมอง เพียบเลย คุณทำที่หลัง คุณไม่มีสามารถชนะเขาได้นะครับ ถ้าคุณยังวนเวียนอยู่กับความรู้และใช้องค์ความรู้เดิมที่อยู่ในประเทศไทย คุณชนะเขาไม่ได้ ผม ฟันธงแบบนี้เลย ถ้าคุณทำตัวคนเดียวนะครับ คุณไม่มีทางชนะเขาได้ ไม่มีทางเป็นเบอร์หนึ่งได้เลย แต่ถ้าคุณอยากจะเป็นเบอร์หนึ่งนะครับ คุณต้องใช้แนวคิดที่ผมพูดไป คือคุณต้องเรื่องแรกนะครับ คุณต้องใช้องค์ความรู้ในประเทศ สิ่งที่คนต้องการในประเทศนะครับ บวกกับองค์ความรู้ของโลกครับ ความต้องการของโลกที่มันจะมา โดยใช้วิธีวิดีโอที่ผมพูดไปตะกี๊นะครับ เรื่องของการใช้แนวคิดเรื่องการค้นหาธุรกิจแบบ Blue Ocean Strategy เพื่อหาความต้องการใหม่ๆบวกกับความต้องการเดิมๆที่มีอยู่ในเมืองไทย และสร้างธุรกิจ หรือสินค้าหรือบริการที่เพิ่มเข้ามาเพื่อตอบสนองโจทย์ที่เป็นโอกาสของคุณเองนะครับ นาทีที่ 18:13 – 19:52 คราวนี้ผม Search ใน Amazon เหมือนเดิมนะครับ แต่คุณต้องดูในวิดีโอที่ผมให้เรียบร้อยนะครับ  ผม Search คำว่า “Solopreneur” คุณรู้เลยว่ามีข้อมูลหรือ Knowhow ในต่างประเทศเนี่ยรองรับอยู่แล้วประมาณหนึ่งร้อยกว่าเล่มนะครับ เห็นไหม? ดูนะครับ เห็นไหมครับ มีหนังสือเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าผมจะสามารถใช้องค์ความรู้ของระดับโลกนะครับ เพื่อพัฒนาตัวเอง และเอานำองค์ความรู้นี้มาเผยแพร่ในเมืองไทยนะครับ เพื่อสร้างจุดต่างและเพื่อเผยแพร่ในลักษณะของ infopreneur คือการให้ข้อมูลผู้ประกอบการ ให้ข้อมูล ไม่จำเป็นว่าเราให้ข้อมูลแล้วเราจำเป็นต้องขายอย่างเดียวนะครับ เราให้ข้อมูลเพื่อให้เราเป็นผู้ชำนาญ และคนจะมองหาเรา คนจะปรึกษาเรา แล้วเรา เวลาคนต้องการสินค้าและบริการอะไร เราก็จะมอบสินค้าหรือบริการที่ดีที่สุดให้เขา หรือว่าสินค้าหรือบริการที่เราสร้างเองให้กับเขา ก็ยังได้ นึกภาพออไหมครับ? มันจะเป็นการสร้าง Personal brand เป็นการเดินกลยุทที่ทำให้คุณสามารถชนะธุรกิจขนาดใหญ่ได้ เพราะธุรกิจขนาดใหญ่เขาไม่เดินกลยุทธ์นี้ครับ มันเสี่ยงที่จะใช้คนครับ เขาจะใช้เรื่องของการโฆษณา ใช้แบรนด์ แล้วก็ใช้ดาราในการโฆษณา อันนั้นมันไวกว่าในทางของเขานะครับ แต่ถ้าเกิดคนทำธุรกิจแค่คนเดียว คุณต้องเดินกลยุทธ์ Personal brand แล้วก็ใช้ การเป็น infopreneur ช่วยนะครับ ในการทำ ทำให้คนรู้จักเรานะครับ คราวนี้กลับมาดูต่อนะครับ คราวนี้ให้พี่ พี่เป็นคนทำเว็บไซต์ แล้วพี่ทำเว็บไซต์ได้ แต่ถ้าหนูทำเว็บไซต์ไม่เป็น จะเดินกลยุทธ์อย่างงี้ได้ยังไงนะครับ ผมบอกงี้นะครับ คุณต้องใช้ Fanpage ช่วย ผมเตรียมไว้ให้แล้วนะครับ และการที่คุณใช้ Facebook ช่วยคุณต้องเป็น infopreneur ศึกษาข้อมูล แล้วก็คุณก็เขียนบทความลงแฟนเพจ นาทีที่ 19:53 – 20:44 อย่างงี้เป็นตัวอย่างที่ผมเขียนบทความลงแฟนเพจในสามอาทิตย์นะครับผมเขียนไปแล้วสี่สิบห้าสิบบาทความนะครับ แล้วผมก็ลงเว็บไซต์เรื่อยๆนะครับ ประมาณสามสิบบทความ เริ่มต้นเนี่ยคุณเขียนลงแฟนเพจก่อนนะครับ แล้วแฟนเพจให้คนรู้จักคุณนะครับ แล้วก็เผยแพร่ข้อมูลคุณ แฟนเพจเป็นตัวสร้าง Personal brand ที่ดีที่สุดนะครับ ทำให้คนรู้จักคุณแล้วเผยแพร่ข้อมูล มีการแชร์ คุณสามารถสร้างกลุ่มได้นะครับ เพื่อเชื่อมกับแฟนเพจนะครับ เหมือนที่ผมทำในเว็บ ในแฟนเพจ ทำนักรบทำธุรกิจ เพื่อสร้างกลุ่มสร้างฐานลูกค้าได้นะครับ สิ่งสำคัญนะครับในการเป็น infopreneur นะครับ มันไม่ใช่เรื่องเทคนิคหรอกครับ เป็นเรื่องของว่าทำยังไงคุณถึงจะมี Content หรือข้อมูลที่เขียนได้เกือบทุกวัน หรือทุกวันเลยยิ่งดี นี่เป็นโจทย์ที่ยากที่สุดนะครับ พอเขียนปุ๊บแล้วคุณจะทำยังไงให้มันน่าสนใจแล้วคุณติดตาม มันคือเรื่องทักษะของการเขียนนะครับผม นาทีที่ 20:45 – 21:32 คราวนี้มาดูกันว่าเราจะสร้าง Content นะครับ โดยไม่มีวันหมดได้อย่างไรนะครับ เรื่องแรกนะครับ คุณต้องลงมือทำ เรื่องที่สองนะครับคุณต้องมี Source Content ระดับโลกนะครับ ซึ่งคุณ Search นะครับธุรกิจได้เรียบร้อยแล้วเนี่ย Amazon นะครับ แล้วเมืองไทยยังไม่มี คุณก็นำมาประยุกต์ใช้นะครับ จากหนังสือ จาก Audio หรือจากอะไรก็แล้วแต่นะครับ ซึ่งความสามารถในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณอาจจะใช้ Google translate  ช่วยในช่วงแรกแรกได้ แล้วค่อยเรียนรู้และพัฒนานะครับ ผมบอกงี้เลยนะครับถ้าคุณไม่เรียนรู้จากตลาดระดับโลก แล้วคุณใช้แค่องค์ความรู้ในเมืองไทยยังไงคุณก็ไม่เป็นอันดับหนึ่งแน่นอน นึกภาพออกนะครับ ฉะนั้น ปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษนะครับ ผมขอตัดไปเลยนะครับ สำหรับคนที่ทำไม่ได้ขอให้เรียนรู้เลยนะครับ ไม่งั้นคุณไม่มีทางเป็นอันดับหนึ่งได้ นาทีที่ 21:33 – 23.05 คราวนี้กลับมาเริ่มต้นถัดไปนะครับ แล้วพี่ครับ ถ้าเกิดธุรกิจของผมของฉันเนี่ย ของดิฉันเนี่ยมันเป็นแบบ เป็นธุรกิจอย่างอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจการสอนเราจะทำเป็น  infopreneur ได้ไหม อ่า.. นะครับ ผมนึกตัวอย่างตัวนี้นะครับ ซึ่งผมเคยโพสเอาไว้ในแฟนเพจ แล้วผมชอบนะครับ ผมอ่านนะครับ เกี่ยวกับเรื่องของการทำศิลปินจาก Blisby นะครับ เขาทำเกี่ยวกับเรื่องของ Case เกี่ยวกับหนัง เป็นกระเป๋าสตางค์อะไรอย่างเนี้ย ซึ่งนะครับลองแวะเข้าไปชมดูนะครับ แวะเข้าไปชมเลย เขาจะมีทักษะใน present นะครับ สินค้า แล้วก็การทำงานทุกขั้นตอนนะครับ รายละเอียดของเขาไม่ใช่เพียงแค่เล็กๆน้อยนะครับ เขาใส่ใจถูกรายละเอียด ซึ่งนะครับศิลปินใน Blisby หรือคนที่มีความสามารถ เขาศึกษาต่างประเทศถึงวิธีการทำนะครับ เขาไม่มี เขาเขยิบทำคนแรกๆนะครับ ฉะนั้นเขาไม่ได้ใช้องค์ความรู้ในไทยอย่างเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์ แน่นอนนะครับ เขาดูวิดีโอในต่างประเทศ เขาเรียนรู้ถึงตีสองตีสาม แล้วเขาทุ่มเทกับมันสุดๆนะครับ ด้วยความรัก แล้วก็ความที่อยากจะทำมันออกมานะครับ เป็นชิ้นงานที่ดีนะครับ แล้วเขาก็มีเรื่องราวเล่าผ่านแฟนเพจเป็นระยะๆ ในลักษณะของการให้ข้อมูลนะครับ information อย่างงั้นนะครับ ซึ่งทำให้เวลาที่จะดูสินค้าหรือบริการ เรารู้สึกอยากซื้อ แล้วก็รู้สึกว่า คนที่ทำเรื่องเนี้ย เป็นเรื่องที่รู้จริงนะครับ ไม่ใช่เพียงแค่โพสสินค้าละให้ราคา จัดโปรโมชัน ละทำ Google adwords, Facebook ads แค่นี้มันง่ายไปครับ คือวิธีนี้ไม่เวิร์คครับ นาทีที่ 23.06 – 23.49 วิธีการที่คุณ work คุณต้องให้ข้อมูลเชิงลึกนะครับ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้นะครับ มาจากไหน ดียังไง เลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุดได้ยังไง กรรมวิธีการผลิตนะครับ พวกนี้คือ information ที่คุณจะสามารถให้กับลูกค้าได้นะครับ และการที่คุณจะรู้ information พวกนี้ได้ คุณต้องเรียนรู้ระดับโลก หรือในระดับสากล หรือในระดับทั่วไป ไม่จำกัดอยู่แค่ในวงในไทยเท่านั้นนะครับ แล้วคุณจะมี information ที่ให้ข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างไม่มีวันหมด นึกภาพออไหมครับ ฉะนั้นคุณสามารถขยายเป็นธุรกิจอื่นได้ เรื่องแรกนะครับ ถ้าคุณเลือกธุรกิจนะครับ หรือว่าสินค้า บริการที่เป็น Mass product ผมว่าคุณเลือกผิดตั้งแต่เริ่มต้นละครับ เพราะคุณไม่ใช้วิธีคิดแบบ Blue Ocean Strategy ที่ผมให้เลยนะครับ นาทีที่ 23.50 – 24.59 อันที่สองคุณต้องศึกษาข้อมูลและก็ใช้แนวคิดแบบ infopreneur ในการให้ข้อมูลนะครับ โดยให้ผ่านแฟนเพจ ผ่านในรูปแบบของการเขียนบทความนะครับ เพราะคุณเขียนบทความมากเข้า โฟกัสที่เรื่องการเขียนบทความ หรือการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สินค้าและบริการ วัสดุอะไรต่างๆนะครับ อย่างเงี้ย ทุกๆวันนะครับ ผมย้ำนะครับ ทุกๆวันเลยนะครับ ผ่านแฟนเพจก่อน คุณสะสมเอาไว้ในแฟนเจเรื่อยๆนะครับ ระหว่างคุณค่อยเรียนวิธีการสร้างเว็บไซต์ คุณสะสมไปเรื่อยๆนะครับผ่านแฟนเพจ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะครบ ต่อลูกค้า ไม่ใช่ให้ข้อมูลที่เน้นขยายนะครับ เป็นประโยชน์อย่างเดียวเลยนะครับ สะสมไว้ในแฟนเพจเรื่อยๆนะครับ เหมือที่ผมทำ อันที่สองนะครับ คุณเอาข้อมูลอย่างงี้โพสใน Google plus นะครับ พอคุณโพสใน Google plus เนี่ย  Google นะจัดอันดับเรื่องของ Google plus ให้อยู่ในในอันดับดีขึ้น คน Search คนค้นหามากขึ้นเรื่อยๆนะครับ เพื่อนผมที่เป็นแฟนหรือเป็นคนในแวดวง Google plus นะครับ เขา Search อะไรมาแล้วเจอเรื่องราวที่อยู่ในที่คุณโพสเอาไว้นะครับ อันดับของคุณจะขึ้นต้นเลย คุณจะเห็น Google plus ก่อนเพื่อนเลยนะครับ แทรกอยู่ในอันดับ Search ของ Google นะครับ นี่คือเทคนิคอย่างหนึ่งนะครับ นาทีที่ 25.00 – 25:47 คราวนี้นี่คือเรื่องขั้นต่อมานะครับ หลังจากที่คุณโพสในแฟนเพจเรียบร้อยนะครับ หลังที่คุณเรียนรู้และมีความรู้ความสามารถทางด้านเว็บไซต์ WordPress นะครับ เหมือนที่ผมสอนเอาไว้ใน Warrior นั้นนะครับ คุณนำมาโพสใน WordPress นะครับ โดยคุณสามารถที่จะสร้าง category ใน Keywords ที่คุณต้องการเหมือนที่ผมทำอยู่อย่างงี้นะครับ ชื่อที่ผมต้องการคือ ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจส่วนตัว นึกภาพออไหมครับ เยอะมากนะครับ แล้วผมก็ เนื่องจากผมเขียนบทความแล้วก็ให้ความรู้ในแฟนเพจ แล้วเป็นสิบๆเรื่องเลย พอผมโยนกับมาที่เว็บไซต์ปุ๊บ อันดับผมขึ้นทันทีนะครับ ดังนั้นผมต้องทำอย่างงี้ทุกวันนครับ ซึ่งเป็นลักษณะการให้ข้อมูลสอดคล้องนะครับตอนเริ่มแรกนะครับ  คุณต้องเป็น infopreneur ศึกษาเรียนรู้ข้อมูล  คุณจะมีข้อมูลในหัวมากขึ้นนะครับ แล้วก็รู้เรื่องเกี่ยวกับ product แล้วคุณก็ปล่อยออกมาในเว็บไซต์ หรือในแฟนเพจก่อนนะครับ นาทีที่ 25:48 – 27:21 ระหว่างนั้นระหว่างที่คุณปล่อยมาอาจจะเป็นสิบ ยี่สิบ สามสิบ หรือเป็นร้อยอะไรอย่างเงี้ยนะครับ คุณค่อยเรียนรู้เรื่องของการสร้างเว็บไซต์ และคุณสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ช่วยนะครับ แล้วเอาข้อมูลในเรื่องของแฟนเพจโยงมาที่ WordPress ครับ ผมบอกได้เลยว่า WordPress เป็นระบบที่ดีที่สุดในเรื่องของการทำ Content management system แล้วก็เอื้อ SEO ที่ดีที่สุดในโ,กตอนนี้นะครับ ผมกล้าการันตีอย่างงั้นเลยนะครับ และถ้าคุณยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องของเว็บไซต์ WordPress มากเพียงพอนะครับ คุณต้องดูหัวข้อวิดีโอที่ทำฟรีไว้นะครับ “WP101 : ทำไมต้องใช้ WordPress ?” แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม WordPress ถึงเป็นอันดับหนึ่งของโลกนะครับ ในเรื่องของ Content management system นะครับ  และคุณก็ดูเรื่องของ WP102 เรื่องของการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress นะครับ ซึ่งตัวนี้ผมสอนฟรีด้วยนะครับ โดยผมแนะนำให้ดูนะครับ ตรงนี้ ตรงนี้เรื่องของการติดตั้ง ข้ามไปได้เลยนะครับ เพราะว่าคุณสามารถที่จะติดตั้งด้วย Host จริงๆได้นะครับ ส่วนที่คุณต้องดูนะครับ คือผมแนะนำให้ดูแบบนี้ครับ ดูเพียงแค่วิธีการตรงนี้ครับ วิธีค้นหา Theme นะครับ วิธีการใช้งานง่ายๆนะครับ จนถึงแค่นี้เองนะครับ จนถึงแค่นี้เอง Setting เท่านี้เองนะครับ ส่วนเรื่องที่เหลือก็ข้ามไปได้นะครับ เพราะเป็นเรื่องของ Advance มากขึ้นนะครับ ถ้าคุณอยากจะต่อยอดนะครับ แล้วคุณมีความสามารถและความรู้มากพอในการใช้งานนะครับ คุณก็เรียนเรื่องของการใช้งาน  WP104 เพิ่มขึ้นได้นะครับ ซึ่งคุณลองก็ ซึ่ง WP104 การสร้าง  Theme WordPress ก็คือ Theme WordPress ที่ผมใช้นะครับ Warrior ตัวนี้นะครับ เป็นตัวอย่างนะครับ นาทีที่ 27:22 – 28:19 สรุปเลยนะครับ กลับมาที่ WordPress ต่อนะครับ จาก WordPress กลับมา Facebook นะครับ เริ่มต้นนะครับ คุณต้องเขยิบตัวให้เป็น infopreneur นะครับ และให้ข้อมูล ความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อผลักดัน สร้าง personal brand ให้คุณเป็นคนที่ Expert ทางด้านนั้น แล้วคุณใช้ Fanpage เป็นกลยุทธ์แรกในการที่เขียนบทความ เขียนความรู้ เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของคุณให้เป็นประโยชน์กับคนนะครับ เดินตามกลยุทธ์ที่ผมวางไว้เลยนะครับ และถ้าคุณตามข่าว Facebook นะครับ เหมือนที่ผมโพสไว้ในแฟนเพจนะครับ คุณจะรู้ว่า Facebook นะครับเพิ่มความสามารถ ลองรับวิดีโอนะครับ สามารถเอาวิดีโอไปฝังในเว็บไซต์ได้นะครับ ซื้อนะครับเว็บไซต์ให้บริการค้นหาสินค้าออนไลน์นะครับ แล้วก็พัฒนา Facebook  messenger app ให้รองรับให้นักพัฒนาติดต่อได้นะครับ  Facebook กำลังพัฒนานะครับแอพพลิเคชันของเขานะครับ Service  ของเขานะครับให้รองรับคนทำธุรกิจออนไลน์นะครับ มากขึ้น นาทีที่ 28:20 – 29:18 ฉะนั้น ถ้าการคุณทำแฟนเพจในตอนนี้ละคุณขยับให้มีคนที่รู้จักคุณมากขึ้นนะครับ คุณจะต่อยอดเรื่องของ E-commerce ได้ในอนาคตนะครับ เห็นไหมครับว่าแฟนเพจของผมมีคนกลุ่มไม่เยอะเลยนะครับ มีคนกดถูกใจแค่ประมาณเริ่มต้นแค่สามสี่พันแล้วก็ไล่มาเจ็ดพัน ผมก็สามารถทำธุรกิจ แล้วก็สามารถที่จะเปิดบริษัทของผมได้แล้วโดยที่คุณไม่ต้องมีคนถูกใจเป็นแสนๆเลยนะครับ แต่คุณสามารถเติบโตได้เรื่อยๆนะครับ ผ่านรูปแบบการทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวแบบนี้นะครับ วกกลับมาที่เว็บไซต์นะครับ นี่คือกลยุทธ์ที่ผมวางไว้นะครับ และคุณสามารถที่จะเอาแนวคิดในเรื่องของการทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียว Solopreneur และการใช้กลยุทธ์ การเป็น infopreneur เจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ Niche market ได้ในการประยุกต์ใช้นะครับ โดยคุณสามารถที่จะใช้ขบวนการเหล่านี้นะครับ ในการสร้างฐานลูกค้านะครับ ทางแฟนเพจ แล้วก็ทางเว็บไซต์นะครับ นาทีที่ 29:19 – 30:37 แล้วเมื่อไหร่ที่เว็บไซต์คุณติดอันดับ TOP หรือหน้าแรกของเว็บไซต์คุณจะมีลูกค้าที่เข้ามาหาคุณเนี่ยประมาณเป็นหมื่นๆพันๆคนแล้วแต่กลุ่มลูกค้าของคุณนะครับ ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ใน WordPress ของผม มีลูกค้าเข้ามาแค่วันละสองร้อยกว่าคน เดือนหนึ่งอย่างเก่งก็ประมาณสามสี่พันคน ยังสามารถทำยอดธุรกิจได้ขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งที่คุณมีลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น เป็นพันๆคนหมื่นๆ คนและคุณมีความสามารถในเรื่องของ infopreneur นะครับ ในการให้ข้อมูลและมีผู้เชี่ยวชาญนะครับ ที่คุณยอมรับในระดับหนึ่ง สามารถโพสผลงานใน Facebook คุณจะสามารถตั้งตัวและก็สามารถที่จะทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน  สู้กับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีเงินหนา มีทุนหนา คนเยอะกว่าคุณได้สบายๆ นะครับ พอเห็นกลยุทธ์ที่ผมวางไว้ตลอดทั้งปีแล้วหรือยังครับ ถ้ามีคำถามสงสัยนะครับ สอบถามมาได้ ที่ Facebook ของผมนะครับ ผมยินดีที่จะตอบแล้วก็ให้คำแนะนำนะครับผม สำหรับเรื่องกลยุทธ์ที่ผมวางไว้นะครับ สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์ หรือธุรกิจส่วนตัวด้วยตัวคนเดียวนะครับ Solopreneur และใช้กลยุทธ์การเป็น infopreneur เจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ Niche market จบเพียงเท่านี้ครับ สวัสดีครับ.