นี่คือรายการ คำศัพท์ On-Page SEO ที่คนทำ SEO ควรรู้จัก โดยทีม WarriorSEO ได้รวบรวมและแบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ

คำศัพท์ SEO
คำศัพท์ SEO

On-Page SEO คืออะไร?

On-Page SEO คือ การปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ “บนหน้าเว็บไซต์ของเราโดยตรง” เพื่อให้ Search Engine (เช่น Google) เข้าใจเนื้อหาในหน้านั้นๆ ได้ดีขึ้น และเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน (User) ส่งผลให้มีโอกาสติดอันดับการค้นหาที่ดีขึ้นนั่นเองครับ


หมวดที่ 1: เนื้อหาและคีย์เวิร์ด (Content & Keywords)

เป็นหัวใจหลักของ On-Page SEO เพราะเนื้อหาคือสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ และคีย์เวิร์ดคือประตูที่นำผู้ใช้มาเจอเนื้อหาของเรา

คำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ)คำศัพท์ (ภาษาไทย)คำอธิบาย
Keywordคีย์เวิร์ด, คำค้นหาคำหรือวลีที่ผู้ใช้งานพิมพ์ในช่องค้นหาของ Google เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ
Focus Keywordคีย์เวิร์ดหลักคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุดที่เราต้องการให้หน้านั้นๆ ติดอันดับ
Semantic Keywords / LSI Keywordsคีย์เวิร์ดรอง, คำที่มีความหมายเกี่ยวข้องคำอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับคีย์เวิร์ดหลัก ช่วยให้ Google เข้าใจบริบทของเนื้อหาได้ลึกซึ้งขึ้น เช่น ถ้าคีย์เวิร์ดหลักคือ “กาแฟดริป” คีย์เวิร์ดรองอาจเป็น “เมล็ดกาแฟ”, “วิธีดริป”, “อุปกรณ์”, “ratio”
Search Intentเจตนาการค้นหาความต้องการที่แท้จริงเบื้องหลังคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก: Informational (หาข้อมูล), Navigational (หาเว็บที่เจาะจง), Commercial (หาข้อมูลก่อนซื้อ), Transactional (ต้องการซื้อ)
Content Qualityคุณภาพของเนื้อหาเนื้อหาที่มีประโยชน์, ไม่ซ้ำใคร (Original), ให้ข้อมูลครบถ้วน, อ่านง่าย และตอบโจทย์ Search Intent ของผู้ใช้
Keyword Stuffingการยัดคีย์เวิร์ดการใช้คีย์เวิร์ดหลักซ้ำๆ กันมากเกินไปในเนื้อหาอย่างผิดธรรมชาติ ถือเป็นเทคนิคสายดำ (Black Hat SEO) ที่ควรหลีกเลี่ยง
E-E-A-Tประสบการณ์, ความเชี่ยวชาญ, ความน่าเชื่อถือ, ความไว้วางใจย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness เป็นหลักการที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเนื้อหา โดยเฉพาะในกลุ่ม YMYL (Your Money or Your Life)

หมวดที่ 2: องค์ประกอบ HTML ที่สำคัญ (HTML Elements)

เป็นโค้ดที่อยู่เบื้องหลังหน้าเว็บ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งเพื่อส่งสัญญาณให้ Google รู้ว่าส่วนไหนของหน้าเว็บสำคัญที่สุด

คำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ)คำศัพท์ (ภาษาไทย)คำอธิบาย
Title Tag (Meta Title)แท็กชื่อเรื่องข้อความที่แสดงเป็นหัวข้อหลักบนหน้าผลการค้นหา (SERP) และบนแท็บของเบราว์เซอร์ เป็นปัจจัย On-Page ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
Meta Descriptionแท็กคำอธิบายข้อความสรุปสั้นๆ ที่แสดงอยู่ใต้ Title Tag บนหน้าผลการค้นหา แม้ไม่มีผลต่ออันดับโดยตรง แต่มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจคลิก (CTR)
Header Tags (H1, H2, H3, …)แท็กหัวเรื่องใช้จัดลำดับความสำคัญของหัวข้อในหน้าเว็บ H1 คือหัวข้อหลักที่สุด (ควรมีแค่ 1 อันต่อหน้า) ส่วน H2, H3 เป็นหัวข้อย่อยตามลำดับชั้น
Alt Text (Alternative Text)ข้อความอธิบายรูปภาพข้อความที่ใส่ไว้ในโค้ดของรูปภาพ เพื่ออธิบายว่ารูปนั้นคืออะไร ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของรูปภาพ และช่วยผู้พิการทางสายตาที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ
URL Slugชื่อ URLส่วนท้ายของ URL ที่ระบุชื่อของหน้านั้นๆ ควรตั้งให้สั้น กระชับ สื่อความหมาย และมีคีย์เวิร์ดหลักอยู่ด้วย เช่น yourdomain.com/onpage-seo-glossary

หมวดที่ 3: ลิงก์และโครงสร้าง (Links & Structure)

การเชื่อมโยงหน้าต่างๆ เข้าด้วยกัน ช่วยทั้งผู้ใช้และ Google Bot สำรวจเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้น

คำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ)คำศัพท์ (ภาษาไทย)คำอธิบาย
Internal Linkลิงก์ภายในการสร้างลิงก์จากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง ภายในเว็บไซต์เดียวกัน ช่วยส่งต่อพลัง SEO (Link Equity) และช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเจอได้ง่าย
External Link (Outbound Link)ลิงก์ภายนอกการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ของเราไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของเรา

หมวดที่ 4: ประสบการณ์ผู้ใช้และเทคนิค (User Experience & Technical)

ปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ซึ่ง Google ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

คำศัพท์ (ภาษาอังกฤษ)คำศัพท์ (ภาษาไทย)คำอธิบาย
Page Speed / Load Timeความเร็วในการโหลดหน้าเว็บระยะเวลาที่หน้าเว็บใช้ในการโหลดจนแสดงผลสมบูรณ์ เว็บที่โหลดเร็วกว่ามักจะมีอันดับที่ดีกว่าและมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า
Mobile-Friendlinessการรองรับบนมือถือการออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงผลและใช้งานได้ง่ายบนอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ปัจจุบัน Google ใช้ Mobile-First Indexing เป็นหลัก
User Experience (UX)ประสบการณ์ผู้ใช้ความรู้สึกโดยรวมของผู้ใช้ขณะที่ใช้งานเว็บไซต์ของเรา เช่น การนำทาง (Navigation) ง่ายหรือไม่, ตัวอักษรอ่านง่ายหรือไม่, มี Pop-up รบกวนมากไปหรือเปล่า
Schema Markup (Structured Data)ข้อมูลที่มีโครงสร้างชุดโค้ดพิเศษที่ใส่เข้าไปในเว็บไซต์เพื่อช่วยให้ Search Engine “เข้าใจ” ข้อมูลในหน้าเว็บในระดับที่ลึกขึ้น เช่น นี่คือบทความ, นี่คือสูตรอาหาร, นี่คือรีวิวสินค้า
Rich Snippetsผลการค้นหาที่แสดงข้อมูลพิเศษผลลัพธ์จากการใช้ Schema Markup ทำให้การแสดงผลบน Google ดูโดดเด่นกว่าปกติ เช่น แสดงรูปดาวรีวิว, แสดงเวลทำอาหาร, แสดงราคาสินค้า

ทีมงาน WarriorSEO หวังว่าการทำความเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและปรับปรุง On-Page SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดมากขึ้นครับ