3 รูปแบบแห่งการใช้ชีวิต เพื่อทำธุรกิจออนไลน์

3 รูปแบบแห่งการใช้ชีวิต เพื่อทำธุรกิจออนไลน์
นักรบทดสอบกับตัวเองเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพื่อค้นหา ลักษณะนิสัย การคิด และการชีวิตแบบไหน ? ที่จะทำให้ทำธุรกิจออนไลน์ได้ประสบความสำเร็จ

3 รูปแบบของการใช้ชีวิตดังนี้

  1. นักวางแผน ทำธุรกิจออนไลน์ ต้องวางแผน ตามตำรา ตามที่เรียนมา
  2. นักบันเทิง ทำธุรกิจออนไลน์ แบบชิวๆ ตามอารมณ์ เน้นความสุขและ Feeling
  3. นักรบ ทำธุรกิจ ทำก่อนคิดทีหลัง ใช้เงินให้น้อย ล้มแล้วลุกใหม่ เอาบาดแผลสร้างวิสัยทัศน์

นักวางแผน

ฟังดูดี เหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่น่าจะเลือก และนักรบก็ใช้วิธีนี้ในการทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มทำธุรกิจออนไลน์เป็นของตัวเอง แต่นักรบกลับพบว่า วิธีนี้ผิดอย่างสิ้นเชิงสำหรับคนเริ่มต้นธุรกิจ การเป็นนักวางแผนได้ ต้องผ่านการเป็นนักรบ เน้นลงมือทำมาก่อน เพราะ สิงที่เราวางแผน มันก็แค่ออกมาจากตำรา หรือแค่ไปฟังคนอื่นมาเท่านั้น ประสบการณ์จริงไม่มีเลย มันใช้ไม่ได้จริงในธุรกิจ การเป็นนักวางแผน ทำให้ผมรู้สึกโง่มากๆ เมือมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่ทำมันไม่เวิร์ค มันห่วย ช้า และไม่ได้ผล อีกทั้งมันง่ายที่จะหาเหตุผลมาอ้างโน่นอ้างนี้ เวลาอยากเลิก หรือปลอบตัวเองไปวันๆอีกต่างหาก

นักบันเทิง

ทำธุรกิจแบบ ชิวๆ คิดว่าค่อยๆทำ ตามอารมณ์ เพราะ เคยเป็นนักวางแผน แล้วเครียด ทำอะไรก็ไม่เวิร์ค เหมือนที่คิด ที่อ่านมาจากตำรา แต่ใจก็อยากทำธุรกิจอยู่ เลยทำธุรกิจแบบตามอารมณ์ เน้นหาแรงบันดาลใจจากคนอื่น จากหนังสือ จากคำพูดและจากงานสัมมนาต่างๆ มันช่วยให้มีพลังเป็นพักๆ แต่เอาเข้าจริง พลังมันมาเร็วไปเร็ว สุดท้ายก็ไม่เวิร์คอยู่ดี ไม่ใช่เพราะสิ่งที่อ่าน สิ่งที่ฟังมามันไม่ดีหรอก มันเป็นเพราะเราต่างหากที่ไม่มีประสบการณ์โชกโชนเพียงพอ โอกาสเข้ามาก็ไม่เห็นและคว้าไว้ไม่ได้ หนำซ้ำความสามารถที่มีก็ไม่เพียงพออันเนื้องมาจากทำอะไรชิวๆไปวันๆ นั้นเอง

นักรบ

เน้นลงมือทำ ทำให้เร็ว ไม่วางแผน ใช้เงินให้น้อยที่สุด ล้มแล้วลุกใหม่ วิธีนี้เวิร์ค สุดๆ เพราะมันช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญของนักธุรกิจมือใหม่ได้อย่างชะงัก ทั้งเรื่อง ความคิดที่แคบเกินไป, ประสบการณ์ที่น้อย และความชำนาญแบบพื้นๆ การลงมือทำจะช่วยเติม ความคิดให้มองกว้าง, ประสบการณ์ให้โชกโชน และความชำนาญ ปราดเปรื่อง ยิ่งทำ ยิ่งเก่ง ยิ่งทำยิ่งแก้ไขปัญหาได้ ถึงแม้เจ๊ง ก็ใช้เงินน้อย เดือนหน้าเอาใหม่ ลุกใหม่ได้ มันเวิร์คสุดๆ ทำให้ความสามารถโตเร็วแบบพรั่งพรู การเคลื่อนไหว ทั้งร่างกาย การกระทำ ความคิด และสมอง มันแล่นเร็วกว่าปรกติอย่าน้อย 1.5-2 เท่า ทำให้มีเวลามากว่าคนอื่น และมีเวลามากกว่าตัวเองในอดีตมากมาย นั้นก็เพราะเราเคลื่อนไวเร็ว คิดเร็วนั้นเอง

ความสามารถในการลงมือทำเร็ว ทำให้มีความมั่นใจสุดๆ ว่าจะชนะและก้าวเป็นอับดับ 1 ในสิ่งที่ทำได้

และเมื่อทำไปมากเข้า คุณภาพของงานจะดีขึ้นเอง มันจะวางแผนได้เป็นอัตโนมัติเอง ไม่ต้องคิดมากเลย เพราะทำเยอะ ลุยเยอะ แก้ไขปัญหาเยอะนั้นเอง มันเป็นเหตุเป็นผล ทีเข้าใจได้ง่ายทีเดียว

ทำให้นักรบ ค้นพบสูตรสำเร็จของวิธีคิดในการทำธุรกิจเข้าให้แล้ว

นักรบเชื่อว่า สูตรสำเร็จของวิธีคิด มีอยู่จริง และวิธีคิดที่ดีจะสร้างสูตรสำเร็จของวิธีการได้เรื่อยๆ และปรับเปลี่ยนได้เรื่อยๆ ให้ทันยุคทันสมัย ส่งผลต่อให้เขาเป็นผู้นำทางความคิดและการกระทำในสาขาธุรกิจที่ทำอยู่ได้

สูตรสำเร็จของวิธีคิดมีอยู่จริง

เพราะเราเห็นคนที่เคยประสบความสำเร็จแล้ว ก็ประสบความสำเร็จอีก ด้วยพื้นฐานวิธีคิดที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา การเข้าใจลูกค้า และการทำการตลาด รวมทั้งภาพรวมในการทำธุรกิจ สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ถูกฝึกปรือมาอย่างดี ผ่านความล้มเหลว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ทำให้เข้าใจว่า เราจะสามารถหาสูตรสำเร็จของวิธีคิดในการแก้ไขปัญหาได้ ต้องผ่านการลงมือทำมาเยอะพอสมควร และปัจจัยที่ทำให้ลงมือทำเยอะ ก็คือความเร็วในการลงมือทำนั้นเอง

ความเร็วในการลงมือทำ

อยู่ในแทบทุกๆคำพูดของคนทำธุรกิจขนาดเล็ก หรือคนที่เริ่มต้นในการทำธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จแล้วบ้าง ความเร็วในการลงมือทำ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดผลงานเยอะเท่านั้น และยังส่งผลทางอ้อม ขจัดปัญหาพื้นๆ ที่คนส่วนใหญ่ติดอีกด้วย เช่น ความขี้เกียจและความกลัว โดย 2 สิ่งนี้สร้างความเครียดให้คน ก่อนที่จะได้ทำซะอีก ความเร็วในการลงมือทำ ส่งผลให้ทำงานได้ออกมาอย่างมากมาย ถึงแม้ช่วงแรก จะไม่ดีที่สุด แต่มันได้ลองผิดลองถูก และเรียนรู้อย่างรวดเร็ว จนตกผลึกทางความคิด วิธีการ และความชำนาญในสิ่งที่ทำไปพร้อมๆกัน ด้วยความเร็วนี้ ส่งผลให้นักรบ พัฒนาฝีมืออย่างเร็วมากๆ และทำให้อะไรต่อมิอะไรได้อย่างคล่องแคล่ว เสมือนทหารในสนามรบก็มิปาน

หากนักรบจะบอกเคล็ดลับเพียง 1 ข้อ ที่เป็นอาวุธลับส่วนตัว สิ่งนั้นคือ ” ความเร็ว ในการลงมือทำ “