เส้นทาง SEO Specialist กับคุณ Jackie Owen EP1/2

เส้นทาง SEO Specialist กับคุณ Jackie Owen EP1

สรุปเนื้อหาจากคลิปวิดีโอ

บทนำและภูมิหลัง

  • คุณแจ็คกี้ หรือชื่อจริงคือ คุณอภิชาติ มีดาน อายุ 25 ย่าง 26 ปี
  • มีประสบการณ์ด้านการทำเว็บไซต์และ SEO ประมาณ 5 ปีนิดๆ
  • จบมาจาก วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  • เริ่มสนใจเว็บไซต์ตั้งแต่ตอนเรียน
  • หลังจากเรียนจบก็เริ่มรับงาน ทำงานจ๊อบเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเว็บไซต์ต่างๆ
  • มีลูกค้าถามถึง SEO ทำให้ต้องไปศึกษาเพิ่ม
  • ซื้อคอร์สดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาเรียนและเข้าใจว่า SEO เป็นส่วนหนึ่งของการตลาด
  • ชอบ SEO เป็นพิเศษ เพราะมีส่วนที่เกี่ยวกับ อัลกอริทึม ซึ่งตรงกับพื้นฐานวิศวกรรมของตนเอง
  • ศึกษาและลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
  • ปัจจุบันงานหลักคือ รับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress และ SEO รวมถึงมีงาน Google Ads บ้างเล็กน้อย

จุดเริ่มต้นของการเป็นฟรีแลนซ์

  • ตัดสินใจเป็นฟรีแลนซ์ทันทีหลังจากเรียนจบและไม่เคยทำงานประจำมาก่อนเลย
  • เริ่มทำฟรีแลนซ์เพราะกลับมาอยู่บ้านแล้วว่างๆ เลยหาอะไรทำ
  • เริ่มต้นหางานผ่านแพลตฟอร์มแรกที่ใช้คือ Fiverr
  • ตอนแรกคาดหวังงานโค้ดดิ้งระดับสูงตามพื้นฐานวิศวกรรม แต่พบว่าลูกค้าบน Fiverr ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเว็บไซต์แบบ Responsive ง่ายๆ
  • ทำให้ต้องไปศึกษาและเรียนรู้ WordPress ซึ่งตอนแรกไม่รู้จัก
  • ได้ลูกค้ารายแรกบน Fiverr เป็นงานเล็กๆ ทำหน้าเดียว ราคาประมาณ 25 เหรียญ ภายในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
  • ไม่ได้อยู่บน Fiverr นาน เพราะมองว่าเป็นแค่งานอดิเรก ไม่ได้จริงจังนัก
  • ย้ายมาใช้ Fastwork ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ของไทย พบว่ามีขอบเขตงานและลูกค้าเยอะกว่า โดยเริ่มจากรับทำเว็บไซต์เป็นหลักก่อน

การพัฒนาบริการ SEO

  • เริ่มรับทำ SEO อย่างจริงจังหลังจากทำงานเว็บไซต์ได้สักพัก
  • ตอนแรกขาดความมั่นใจในการคิดค่าบริการ SEO
  • ใช้เวลาในการศึกษา ฝึกฝน รวมถึงสร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อทดสอบเทคนิค SEO ด้วย
  • ถือว่าปีแรกส่วนใหญ่เป็นการรับงานเล็กๆ น้อยๆ และ ศึกษา SEO เป็นหลัก
  • เริ่มจริงจังกับการเป็นฟรีแลนซ์และ SEO อย่างแท้จริงประมาณ ปี 2020-2021 หลังจากเข้ามาใน Fastwork
  • เหตุผลที่ตัดสินใจเป็นฟรีแลนซ์ตั้งแต่แรกส่วนหนึ่งมาจาก นิสัยส่วนตัวที่เป็น Introvert ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมหรือทำงานเป็นทีม และชอบที่สามารถทำงานอยู่บ้านได้

การสร้างคอร์สออนไลน์และการสอน

  • เคยทำคอร์สออนไลน์บน Udemy มาก่อน แต่ย้ายมาทำบน Skillshare เนื่องจาก Udemy กดราคามาก
  • รายได้จาก Skillshare ถือว่าดีในช่วง 2 ปีแรก (แตะหรือใกล้เคียง 10,000 บาทต่อเดือน) แต่หลังจากนั้นก็ลดลงและปัจจุบันไม่ได้ดูแลแล้ว
  • สร้างคอร์สระหว่างที่กำลังศึกษา เพื่อต้องการดู Feedback และปรับปรุงการสอนของตนเอง
  • เริ่มทำช่อง YouTube ของตัวเองเพื่อแบ่งปันความรู้ด้วย
  • มีความสุขกับการสอน และรู้สึกดีใจเมื่อผู้ที่ศึกษาได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากการแนะนำของตนเอง
  • ความชอบนี้ทำให้มีบริการ สอนแบบตัวต่อตัว นอกเหนือจากงานรับทำ
  • การสอนแบบตัวต่อตัวไม่ใช่รายได้หลักและจำกัดจำนวน (ไม่เกิน 2-3 คนต่อเดือน) เพื่อให้สามารถโฟกัสในการให้ผลลัพธ์ที่ดีได้

การบริหารเวลาและปริมาณงาน

  • โฟกัสหลักอยู่ที่ งานรับทำ (ทั้งเว็บไซต์และ SEO)
  • โดยทั่วไปทำงานวันละประมาณ 4-5 ชั่วโมง
  • แบ่งเวลาทำงานเป็นช่วงๆ (เช้า, บ่าย, ค่ำ) โดยมีเวลาพักทานข้าวและออกกำลังกาย
  • ระมัดระวังในการ ไม่รับงานมากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด
  • งาน SEO เป็นงานรายเดือน จึงไม่จำเป็นต้องทำทุกวันสำหรับลูกค้าทุกคน
  • บริหารจัดการปริมาณงานโดยการ ไม่รับลูกค้ารายใหม่ หากรู้สึกว่างานเต็มแล้ว

มุมมองผ่านประสบการณ์ทำงานกับลูกค้าต่างประเทศ vs. คนไทย ของคุณ Jackie

  • ลูกค้าต่างประเทศ
    • โดยรวมน่าจะมี กำลังจ่ายที่ดีกว่า งาน SEO ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ราคาอาจสูงถึง 40,000-50,000 บาท ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ต่างจากไทยที่อาจมองว่าแพง (ยกเว้นบริษัทใหญ่หรือผู้มีประสบการณ์ในการทำ seo)
    • มีเวลาที่แตกต่างกัน และการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ โดยรวมจะ ยากกว่ามาก
    • มีงาน Local SEO เยอะมากในต่างประเทศ ซึ่งมีธุรกิจขนาดเล็กหลากหลาย (เช่น ทำหลังคา, ซ่อมแซม) ที่ต้องการบริการนี้ และกลุ่มลูกค้าแบบนี้มีน้อยในประเทศไทยซึ่งเน้น E-commerce หรือบริการระดับสูงมากกว่า
  • ลูกค้าคนไทย
    • โดยทั่วไปมี ความคาดหวังเรื่องงบประมาณต่ำกว่า ลูกค้าต่างประเทศ (แม้ว่าบริษัทใหญ่หรือผู้มีประสบการณ์จะเข้าใจถึงคุณค่า)
    • การทำ SEO โดยรวมจะ ง่ายกว่า เพราะมีการแข่งขันน้อยกว่าตลาดต่างประเทศ
    • Local SEO ในไทยมีการแข่งขันน้อยกว่าต่างประเทศ

ทีมงานและ Outsource

  • ทำงานคนเดียวเป็นหลักและ ไม่มีทีมงานประจำ
  • เคยคิดอยากมีทีมเพื่อขยายงาน แต่ยังลังเลเนื่องจากต้องการ ควบคุมดูแลด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี
  • ผลลัพธ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด บางครั้งเคยไม่คิดค่าบริการลูกค้าหรือทำงานเกินขอบเขตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
  • มีการใช้ Outsource บ้าง โดยหลักๆ คือการ ซื้อ Backlink จากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้และตรวจสอบคุณภาพแล้ว

การให้น้ำหนักในกลยุทธ์ SEO

  • ให้น้ำหนักในส่วนต่างๆ ของ SEO ดังนี้
    • Technical SEO : ไม่เกิน 10% ส่วนใหญ่น้อยกว่านั้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการ (เช่น คลินิก) ที่ไม่มีปัญหาเทคนิคอลซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อใช้ WordPress หรือเป็นเว็บไซต์ที่เขาพัฒนาเอง (หลีกเลี่ยง E-commerce ขนาดใหญ่)
    • On-page SEO : ประมาณ 40%
    • Off-page SEO : ประมาณ 50%

Off-page SEO ที่มากกว่า Backlink

  • เน้นย้ำว่า Off-page SEO ไม่ใช่แค่ Backlink แต่รวมถึง Branding, Traffic เข้าเว็บไซต์ และ Social Signal
  • แนะนำลูกค้าว่า การตลาดในช่องทางอื่นๆ สามารถช่วยสนับสนุน SEO ได้ เพราะ Backlink และ On-page อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอแล้วในปัจจุบัน

เกณฑ์ในการเลือกลูกค้า

  • หลีกเลี่ยงลูกค้าระดับใหญ่มาก เช่น เว็บ E-commerce ขนาดใหญ่ เพราะอาจดูแลไม่ทั่วถึง
  • ชื่นชอบธุรกิจบริการ โดยเฉพาะ คลินิกต่างๆ (คลินิกทำฟัน, คลินิกความงาม)
  • เหตุผลที่ชอบคลินิก มักจะมีงบประมาณและกำลังจ่ายสูงกว่า เจ้าของคลินิกส่วนใหญ่เป็นแพทย์และมีงานยุ่ง จึงไม่ค่อยเข้ามาจู้จี้หรือสอบถามบ่อยๆ ทำให้ทำงานได้อย่างอิสระและส่งรายงานรายเดือนได้สะดวก
  • เกณฑ์การเลือกโดยรวม ดูที่ รูปแบบธุรกิจ, งบประมาณ/ผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับ, และรูปแบบการพูดคุย/สื่อสาร (ชอบลูกค้าที่ไม่ถามตลอดเวลา)

การรับมือกับ Burnout และภาวะอิ่มตัว

  • มีภาวะ Burnout หรือรู้สึกอิ่มตัวบ้างในบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นและรู้สึกว่างานไม่ค่อยท้าทายแล้ว
  • ความผันผวนจากการอัปเดตอัลกอริทึมก็สร้างความเครียดได้ (“เหมือนอยู่บนรถไฟเหาะ”)
  • วิธีรับมือคือ หยุดพักบ้าง และไปทำกิจกรรมอย่างอื่น (เช่น ดูหนัง)
  • หาทางศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือมองหาช่องว่างที่สามารถพัฒนาได้โดยการดูข้อมูล (เช่น Search Console) และติดตามข่าวสารในวงการ

การใช้ AI ใน SEO

  • มองว่า AI มีประโยชน์มาก และใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
  • การใช้งานหลักคือ การสร้าง Content ช่วยประหยัดเวลาในการสร้าง Outline หรือเขียนร่างแรก ซึ่งเขาจะนำไปแก้ไขต่อเอง
  • ไม่ได้พึ่งพา AI มากนักในด้าน Workflow เพราะทำงานคนเดียวและไม่ได้มีโปรเจกต์จำนวนมากที่ต้องจัดการซับซ้อน
  • วิธีการทำงานหลักยังคงเน้น การวิเคราะห์ด้วยตนเอง การดูผลลัพธ์บน Google Search และดูเว็บไซต์คู่แข่ง เพื่อสร้างสมมติฐานและทดสอบ

รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้าง Content

  • เขียน Content ให้ลูกค้าด้วยตนเอง โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย
  • มองว่าการศึกษาข้อมูลเพื่อเขียน Content สำหรับธุรกิจต่างๆ (เช่น สุขภาพสำหรับคลินิก) เป็นประโยชน์กับตนเองด้วย
  • ใช้เครื่องมือง่ายๆ เช่น Canva ในการสร้างภาพประกอบบทความ หากต้องการกราฟิกซับซ้อนอาจขอจากลูกค้า