หลังจากศึกษาเรื่องอัตราผลตอบแทนการลงทุน (ROI) และอ่านหนังสือเงิน 4 ด้าน (ถึงแม้คนแต่งหนังสือจะมีข่าวโดนฟ้องล้มละลาย ก็ขอให้เรียนรู้จากสิ่งดีๆที่เขาให้ไว้ครับ) หนังสือเงิน 4 ด้าน ได้อธิบายถึงรายได้จากคน 4 ประเภท คือ ลูกจ้าง, คนทำธุรกิจส่วนตัว, เจ้าของกิจการ และนักลงทุน ซึ่งดูแล้วใครๆก็อยากเป็นเจ้าของกิจการหรือนักลงทุนกันหมด แต่เป็นไม่ได้เพราะมันต้องใช้เงินลงทุนสูงมากเป็นหลักล้าน
ฉะนั้นนักรบควรเริ่มต้นจากฝั่งลูกจ้างแล้วค่อยเขยิบไปทำธุรกิจส่วนตัว แล้วขยายไปเป็นเจ้าของกิจการและนักลงทุนตามลำดับครับ
พื้นฐานด้านการออมเงิน
- การออมเงินเพื่อใช้จ่าย : พื้นฐานความรู้ทางการเงิน สอนให้เรารู้จักการออมเงินเพื่อใช้จ่ายสำรองเวลาตกงาน, เจ็บป่วย, เดินทาง, ซื้อของใช้ต่างๆตั้งแต่ชิ้นเล็กไปยันชิ้นใหญ่, ซื้อบ้าน, ซื้อรถ, ซื้อมือถือ อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด
- ออมเงินไว้ใช้สำรองฉุกเฉิน
- ออมเงินไว้ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ
- ออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ
- การออมเงินเพื่อทำประกัน รับมือความเสี่ยง : ควรทำประกันเพื่อจัดการความเสี่ยงเช่น ประกันรถ, ประกันบ้าน ประกันอุบัติเหตุ และโรคภัยไข้เจ็บ
- การออมเงินเพื่อลงทุน : เพื่อลงทุนให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงๆ ROI สูงๆ ตรงนี้คือจุดสำคัญผมพยายามเน้นมากที่สุด เพราะมันช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าของเราได้มากเป็นพิเศษนั้นเอง
โปรแกรมแนะนำ : โปรแกรมคำนวณดอกเบี๊ยเงินฝาก https://www.1213.or.th/th/tools/programs/Pages/savings.aspx
ROI คือ อะไร ?
ROI ย่อมาจาก Return on investment คือ อัตราผลตอบแทนการลงทุน
สูตรคำนวณคือ อัตราผลตอบแทนการลงทุน (ROI) = กำไร x 100 / เงินลงทุน
นักรบศึกษาเรื่อง ROI อยู่ ทั้งวิธีคิดและการคำนวณ ทำให้พบว่า ถ้าเราเอาทุกการลงทุนที่เราทำได้นั้นมาคำนวณ ก็จะตัดสินใจได้ว่า เราควรลงทุนกับอะไรดี ประมาณค่า ROI อัตราผลตอบแทนการลงทุนในเงินฝาก,ตราสารหนี้,กองทุนรวมและหุ้น
- ฝากเงิน ค่า ROI 1% ต่อปี
- ตราสารหนี้ ค่า ROI 1-2% ต่อปี
- กองทุนรวม ค่า ROI ตั้งแต่ติดลบ-10% ต่อปี
- หุ้น ค่า ROI ตั้งแต่ติดลบ-10% ต่อปี
- ตราสารอนุพันธ์ เก็งกำไร ความเสี่ยงสูง (ตัวนี้ผมไม่เล่นอยู่แล้วครับ)
** ส่วนเรื่องการลงทุนใน Startup, Bitcoin,Tfex,Forex ขอไม่พูดถึง เพราะไม่ได้ศึกษาครับ หากลองเช็คดูดีๆ ตั้งแต่ 1-5 คือการลงทุน ซึ่งเหมาะกับคนที่เป็นนักลงทุน (Investor) และถ้าจะให้ดีควรมีเงินลงทุนหลักล้านขึ้นไป และมีค่า ROI ตั้งแต่ติดลบ – 10% ต่อปี หรือ สูงสุดไม่น่าจะเกิน 20% ต่อปี
ลงทุนหาความรู้และประสบการณ์ ก่อนที่จะลงทุนจ่ายหนักๆ
- ลงทุนหาความรู้และประสบการณ์ในงานประจำก่อนครับ
- ลงทุนหาความรู้จากหนังสือ และความรู้ในอินเตอร์เนตที่ฟรีและถูกๆก่อน
- ลงทุนหาความรู้และประสบการณ์จากการลงมือทำเล็กๆก่อน
- ลงทุนจากการเข้าอีเวนต์และสัมมนา (ข้อนี้เช็คให้ดี เพราะมันต้องออกนอกบ้านหรือเสียเงิน ระวังสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสียนะครับ)
** นักรบเน้นข้อ 1-3 ครับ เพราะใช้บ่อยที่สุด ส่วนข้อ 4 ไม่เน้นครับ
แชร์ประสบการณ์ตัวเอง ทำ E-Commerce ให้ค่า ROI 50-300 %
ทำธุรกิจส่วนตัวเปิดเว็บไซต์ขายของออนไลน์ (E-Commerce) ได้ค่า ROI ที่สูงกว่าเงินฝาก,ตราสารหนี้,กองทุนรวมและหุ้นหลายเท่าครับ จากประสบการณ์การทำ E-Commerce ของนักรบ จะได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ROI อยู่ที่ 50-300% โดยเฉลี่ย และมียอดขายรวมเกินล้าน/ปี จากธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) ทั้งหมด 3 ธุรกิจ
สรุป คือ เร่งทำธุรกิจออนไลน์ ค้าขายออนไลน์ ให้ได้มากๆหลายธุรกิจ
ไม่มีการลงทุนไหนที่นักรบจะทำแล้วได้ผลตอบแทนการลงทุนได้สูงและทำได้ชัวร์เท่าการทำ E-Commerce อีกแล้ว ฉะนั้นจึงตัดสินใจวางแผนสะสมธุรกิจ E-Commerce ที่ได้ ROI สูงๆเข้าไปหลายๆธุรกิจ แล้วค่อยผันตัวเป็นเจ้าของกิจการและนักลงทุนต่อไป ลุย!!!