เปรียบเทียบ 7 SEO Tools ยอดนิยม 2024

เปรียบเทียบ 7 SEO Tools ยอดนิยม 2024

เป้าหมายหลักของการเพิ่มคนเข้าชมเว็บไซต์ คือ การช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีอันดับสูงขึ้นจากการค้นหาบน Google เพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์และนำไปสู่ยอดขายและรายได้ของธุรกิจต่อไป

โดยในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือหรือตัวช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนในการทำ SEO ซึ่งเราจะเรียกเครื่องมือเหล่านี้โดยรวมว่า SEO Tools โดยแต่ละเครื่องมือก็จะมี Feature ข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป

บทความนี้ ทีมนักรบของเราจะพาคุณมาเปรียบเทียบข้อมูลของ SEO Tools ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปี 2023 ทั้งหมด 7 เครื่องมือด้วยกันดังนี้

10 ขั้นตอนในการทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะไปดูข้อมูลของ SEO Tools แต่ละอัน สิ่งแรกที่คุณควรทำความเข้าใจ คือ การทำ SEO มีขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรมีเครื่องมือมีช่วยในขั้นตอนไหนอย่างไร โดยทีมนักรบได้สรุปไว้เป็น 10 ขั้นตอน ได้แก่ 

  1. Keyword Research การค้นหาคีย์เวิร์ด
  2. Keyword Rank Tracking การเช็คอันดับคีย์เวิร์ด
  3. SEO Site Audit การปรับเว็บไซต์และโครงสร้างเพื่อส่งเสริมการทำ SEO
  4. Onpage SEO Audit การปรับหน้าเว็บไซต์และคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการทำ SEO
  5. User factor การเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้และการเพิ่มผู้ใช้งานเพื่อส่งเสริมการทำ SEO
  6. Social Signal การเพิ่ม Social engagement เพื่อส่งเสริมการทำ SEO
  7. Link Building การสร้างลิงก์ภายในเว็บและนอกเว็บไซต์เพื่อส่งเสริมการทำ SEO
  8. Algorithm Update การติดตามและปรับปรุงเพื่อสอดคล้องกับอัลกอริทึม
  9. Analysis การวิเคราะห์ในทุกขั้นตอนการรับทำ SEO
  10. Report การรายงานการทำ SEO และหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

Feature อะไรบ้างใน SEO Tools ที่สำคัญต่อการทำ SEO 

จาก 10 ขั้นตอนในการทำ SEO ดังกล่าว Feature ของ SEO Tools ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ทำ SEO ให้สามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นมีอยู่ 6 Feature ได้แก่ 

  1. Research Keyword: การดูจำนวนการค้นหาและการแนะนำคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
  2. Rank Tracking: การติดตามตำแหน่งของหน้าเว็บในผลการค้นหาของ Google (SERP)
  3. Competitorr Analysis: ค้นคว้าและประเมินเว็บไซต์ของคู่แข่งและการแข่งขันสำหรับคำหลักแต่ละคำ
  4. Backlink Tracking: การระบุและวิเคราะห์ Backlink
  5. Visitor Behavior Analysis: การติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์
  6. Automated Reporting: การรายงานผลการทำ SEO ตาม KPI ที่ตั้งไว้

7 SEO Tools ยอดนิยม ในปี 2023

ผู้ให้บริการ SEO Tools ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายราย โดยมีรายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันที่ทีมนักรบจะนำมาเปรียบเทียบให้คุณได้พิจารณาทั้ง 7 รายดังนี้

  1. Google: ที่ประกอบด้วย 3 เครื่องมือย่อย คือ
    • Google Ads คือ เครื่องมือในการลงโฆษณาของกูเกิล ทั้งแบบ PPC แบบ PPM
    • Google Analytics  คือ เครื่องมือในการดูสถิติคนเข้าเว็บไซต์ของกูเกิล
    • Google Search Console เครื่องมือในการดูสถิติคนเข้าเว็บไซต์จากกูเกิลแบบออร์แกนิคทราฟฟิค

ทั้ง 3 เครื่องมือนี้เป็นเครื่องอย่างที่แยกจากกัน โดยสามเครื่องมือนี้หากใช้ทำงานร่วมกันจะช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีข้อได้เปรียบจากผู้ให้บริการรายอื่น ๆ คือ การให้ข้อมูลที่เป็นล่าสุด และเป็นเครื่องมือเดียวที่สามารถให้อัตราการคลิกผ่านที่แม่นยำแก่เราได้ และยังใช้งานได้ฟรีอีกด้วย

  1. Ahrefs เป็น SEO Tools ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมี Feature ที่เป็นจุดเด่น คือ การวิเคราะห์ Backlink ของเว็บไซต์ และยังมีความสามารถอื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ SEO โดยรวม การวิเคราะห์ปริมาณการค้นหาของคู่แข่ง เป็นต้น แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่สูงกว่าหลายเครื่องมือ
  2. Moz Pro เป็น SEO Tools ที่มี Featue ที่หลากหลายเทียบเคียงกับ Ahrefs ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยคำหลัก การวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับ การตรวจสอบเว็บไซต์ และการเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าเว็บไซต์ แต่สิ่งที่ยังเป็นข้อสังเกตของผู้ใช้งานหลายรายคือคุณภาพของข้อมูลที่มีแนวโน้มจะมีความแม่นยำน้อยกว่าบางราย 
  3. SEMRush เป็น SEO Tools ที่มีฟังก์ชันที่หลากหลาย มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การวิเคราะห์โดเมน และฟีเจอร์โดเมน ที่มีประโยชน์อย่างมากในการเปรียบเทียบเว็บไซต์ของธุรกิจกับคู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว
  4. Mangools เป็น SEO Tools ที่มีฟังก์ชันพื้นฐานเช่นเดียวกับ ahrefs, Moz และ SEMRush แต่มีจุดที่โดดเด่น คือ เมื่อเที่ยบกับโปรแกรมอื่นๆในตลาดเดียวกัน หน้าตาโปรแกรมนี้จะสวยงามและทันสมัยที่สุด
  5. SE Ranking คือ เครื่องมือ All-in-one SEO tools เหมือนกับ SEMrush แต่มีราคาที่ถูกกว่า 3-4 เท่า และมีฟีเจอร์ต่างๆที่ทำงานได้ดี นักรบแนะนำเครื่องมือนี้เป็นอย่างยิ่ง และเป็นเครื่องมือที่นักรบใช้มากที่สุดครับ
  6. Screaming frog เป็นเครื่องมือระบบสูง ที่มีราคาสูง และต้องติดตั้งลงบน PC ก่อนใช้งาน โดยเน้นการ Scan เว็บไซต์เพื่อหา issuse ในการแก้ไขได้เร็วที่สุดกว่าทุกเครื่องมือในท้องตลาดตอนนี้

เปรียบเทียบคุณสมบัติของ SEO Tools 

จากการ Research ถึง Feature ของ 7 SEO Tools สามารถนำมาแจกแจงในตารางเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจได้ดังนี้

SEO ToolsKeyword ResearchRank TrackingSite AuditOnpage AuditCompettitor AnalysisBacklink CheckerVisitor Behavior AnalysisReporting
Google //xxxx//
Ahrefs///x//xx
SEMRush//////x/
Mangools//xxx/xx
SE Ranking//////x/
Screaming frogxx/xxxxx

SEO Tools แต่ละเครื่องมือเหมาะกับใคร

ด้วยความที่ SEO Tools แต่ละเครื่องมือมี Feature ราคาและคุณสมบัติอื่น ๆ ที่แตกต่างกัน โดยจากประสบการณ์ด้าน SEO ของทีมนักรบจึงแนะนำความเหมาะสมกับการใช้งานดังนี้

SEO Toolsเหมาะสำหรับ
Google ทุกคน เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ต้องติดตั้ง ทั้ง Analysitc และ Search console
Ahrefsทีม SEO ที่มีทักษะซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์อันทรงพลัง เช่น การวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับโดยละเอียด
SEMRushเหมาะกับ Agency เครื่องมือที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก และมีฟังชั่นครบครัน แต่มีราคาที่สูง เหมาะกับ Agency
Mangoolsเหมาะกับ SME หรือ Agency เครื่องมือที่มีหน้าตาโปรแกรมน่าใช้งาน ทันสมัย และมีการออกแบบที่สวยงามน่าใช้ ราคาอยู่ในระดับกลางๆ
SE rankingเหมาะกับ SME หรือ Agency เครื่องมือครบครัน มีทุกฟังชั่นที่ใช้งานสำหรับการทำ SEO และมีราคาไม่สูง แนะนำสำหรับ SME และ Agency 
Screaming Frogเหมาะกับ Agency เพราะมีราคาสูง และสามารถสแกนเว็บได้รวดเร็ว ข้อมูลครบถ้วน

ข้อควรพิจารณาในการใช้ SEO Tools 

SEO Tools ที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบันทั้งที่กล่าวถึงในบทความนี้หรือไม่ก็ตามทั้งหมดสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 

  • เครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็น เช่น Google analytic , Search console
  • เครื่องมือวิเคราะห์การทำ SEO สำหรับ SME และ Agency เช่น Mangools, SE Ranking
  • เครื่องมือวิเคราะห์การทำ SEO สำหรับ AGency และมีราคาสูง เช่น SEMrush, Ahrefs, Screaming frog 

เครื่องมือที่ให้ข้อมูลที่คุณไม่สามารถเก็บรวบรวมด้วยตนเอง เครื่องมือที่ช่วยให้คุณทำงานที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้นได้ง่ายขึ้น และเครื่องมือที่ตีความข้อมูลเพื่อช่วยคุณในการตัดสินใจ 

ซึ่งทุก SEO Tools ก็มีหลายฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ในการทำ SEO ของคุณได้ ช่วยให้คุณทำ SEO ให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณใช้ SEO Tools โดยปราศจากการพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยตนเองอีกชั้นหนึ่งแล้ว ก็อาจสร้างปัญหาให้กับคุณได้ เช่น หาก SEO Tools พยายามช่วยเว็บไซต์โกงกฎหรืออัลกอริทึมของ Google โดยสร้างแนะนำการสร้างเนื้อหาคุณภาพต่ำเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดอันดับเป็นหลัก หรือมี Backlink ที่มากเกินไป อาจทำให้เว็บไซต์ถูกลงโทษในการจัดอันดับก็เป็นได้ 


อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรทำเพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คือ การทดลองใช้จริง เนื่องจาก SEO Tools แต่ละเครื่องมือสามารถให้คุณสามารถทดลองใช้งานได้ ดังนั้นการให้ข้อมูลของทีมนักรบในครั้งนี้เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้คุณสามารถเห็นถึงความแตกต่างของฟังก์ชั่นหรือความสามารถในการทำงาน รวมถึงข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของทุกคนได้ไม่มากก็น้อย

อ่านบทความแชร์เส้นทางอาชีพด้าน Digital Marketing Freelancer ในสาขาอื่นๆได้ด้านล่างนี้ครับ

แชร์ประสบการณ์ สร้างอาชีพและธุรกิจด้าน SEO & Digital Marketing

แชร์วิธีสร้างอาชีพเกี่ยวกับ SEO & Digital Marketing แบบนักรบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริง ว่าความรู้ที่สอนนี้ ใช้ได้ผลจริงกับนักรบ แต่ผู้เรียนควรนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองครับ เช่น รับทำเว็บไซต์ WordPress, วิทยากรสร้างคอร์สออนไลน์, ขายของออนไลน์ด้วยเว็บไซต์, รับทำ SEO แบบฟรีแลนซ์ และ  SEO Agency

มีอะไรฝากไว้ไหมครับ